ThaiClinic.com

Logo Thaiclinic.com bannerthaiclinicnewswelcomeclr.gif (15099 bytes)
Main PageWhat's New!!!Medical BibleClinic OnlineHealth ConferenceQuestion-MallThaiClinic Newsfoldspaceup.gif (292 bytes)Contact Me,Dr.OU

แนะหญิงมีครรภ์หลีกเลี่ยงการทาเล็บ
pregnancy ,Birth , defect , conginital , toxin ,toxic  ,news ,cnn ,women , research

กลุ่มผู้ทำงานเพื่อสิ่งแวดล้อมของสหรัฐอเมริกา เตือนหญิงมีครรภ์ และแม่ลูกอ่อน ให้หลีกเลี่ยงการทาเล็บ เนื่องจากพบว่า ในยาทาเล็บนั้นมีสารเคมีที่อาจส่งผลให้เกิดความพิการ แต่กำเนิดขึ้นทารก หลังจากที่พบ ความผิดปกติดังกล่าว ในสัตว์ทดลอง ที่เกิดในห้องปฏิบัติการมาแล้ว

ตัวแทนจากกลุ่ม EWC หรือ Environmental Working Group ของสหรัฐ กล่าวว่า สารเคมีที่ก่อกวนให้เกิดความพิการแต่กำเนิดนั้นเรียกว่า DBP หรือ Dibutyl Phthalat ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่ม Plasticizer ที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งถูกคิดค้นขึ้นมาในช่วงปี 1930 และมักจะใช้กันมากใน เครื่องสำอางค์ โดยสารตัวนี้ ทำให้ยาทาเล็บมีความเหลวยืดหยุ่น รวมทั้งยังเป็นส่วนผสมในโลชั่น ทำให้เนื้อโลชั่นซึม เข้าสู่ผิวได้ง่ายขึ้น อีกทั้งสารดังกล่าวนี้ ยังไม่ถูกกำหนดให้มีข้อมูลปรากฏอยู่ฉลากของเครื่องสำอางค์ต่าง ๆ ด้วย

สำหรับการทดลองในห้องปฏิบัติการนั้น ได้มีการให้สาร DBP ในปริมาณมากแก่สัตว์ทดลองที่จะออกลูก และพบการว่าสัตว์แรกเกิดมีความพิการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในระบบการสืบพันธุ์ของเพศผู้ นอกจากนั้นเมื่อเดือนกันยายน ที่ผ่านมา The Centers for Disease Control and Prevention ของสหรัฐ ก็ได้เปิดเผลผลการศึกษา จากการเก็บข้อมูลจากผู้ใหญ่วัย 20 – 60 จำนวน 289 คน ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีโอกาสได้รับสาร DPB มาก ๆ ก็พบความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับการให้กำเนิดทารก ผิดปกติจริง ซึ่งในกรณีนี้ Jane Houlihan นักวิเคราะห์อาวุโสของ EWC กล่าวว่า ผู้หญิงอายุระหว่าง 15 – 45 ปีนั้น มีโอกาสที่จะได้รับสาร DBP จากเครื่องสำอางค์มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับยาทาเล็บ ดังนั้น จึงหน่วยงานจึงอยากจะเตือนให้ผู้หญิงที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ หลีกเลี่ยงสารดังกล่าว ในช่วงเวลาที่คิดจะตั้งครรภ์ ตลอดจนถึงช่วงที่ต้องเลี้ยงดูบุตรด้วย

กรณีดังกล่าวนี้ ทำให้บรรดาผู้ที่อยู่ในแวดวงอุตสาหกรรมเครื่องสำอางค์ออกมากล่าวว่า การทาเล็บและการใช้เครื่องสำอางค์นั้นมีความปลอดภัยเพียงพอ โดย Dr. Jerry McEwen, vice-president of science at CTFA หรือ The Cosmetic, Toiletry, and Fragrance Association ระบุว่า ทาง The Food and Drug Administration หรือ FDA รวมทั้งThe Environmental Protection Agency และบรรดาหน่วยงานวิจัยสุขภาพ ทั้งในแคนาดา ยุโรป อเมริกาเหนือ และญี่ปุ่น ต่างก็ได้มีการทดสอบสารชนิดนี้แล้ว และอนุญาติให้ใช้ได้ โดยระบุว่าเป็นสารที่ปลอดภัยต่อการนำมาเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางค์

อย่างไรก็ตาม งานวิจัยชิ้นล่าสุดนี้ ยังไม่ได้ตอบคำถามอีกหลายประเด็น เช่นว่า ปริมาณมากขนาดไหน จึงจะเป็นอันตราย หรือปริมาณขาดไหนมีความปลอดภัยแน่นอน แต่ทาง EWC หวังว่าอย่างน้อย เจ้าของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางค์ที่ใช้สารชนิดนี้เป็นส่วนประกอบ ควรให้รายละเอียดเกี่ยวกับ ปริมาณสารในฉลากของผลิตภัณฑ์ ขณะเดียวกัน ได้ได้มีการหยิบยกสถิติเกี่ยวกับความพิการแต่กำเนิด มาเปิดเผยอีกว่า อัตราการความพิการแต่กำเนิดของเพศชาย เพิ่มมากขึ้นตั้งแต่ช่วงปี 1970s อีกทั้งในเปอร์โตริโก ยังเคยมีผลการวิจัยชิ้นหนึ่งที่พบว่า เด็กหญิงคลอดก่อนกำหนด มีปริมาณของสาร Phthalate ที่แตกต่างกันอยู่ในร่างกายด้วย

อย่างไรก็ตาม บรรดานักวิจัยเห็นว่า กรณีดังกล่าวนี้ควรจะมีการศึกษาวิจัยเพิ่มเติมอีกมาก

Cover Story from CNN Health
http://www.cnn.com/2000/HEALTH/women/11/29/nail.polish/index.html

Main PageWhat's NewMedical BibleClinic OnlineHealth ConferenceQuestion-MallThaiclinic Newsfoldspacebottom.gif (372 bytes)Contact Me,Dr.OU

Created and Desiged by  หมออู๋
1 December 2000

Copyright (c) 1998-2000, ThaiClinic.com. All Right Reserved.