University of California-Los Angeles หรือ UCLA ได้ศึกษาพบว่า
อากาศที่สกปรก
สามารถทำร้ายตัวอ่อนในครรภ์ได้
โดย Beate Ritz ผู้เชี่ยวชาญจาก Center for Occupational and Environmental Health ของ UCLA กล่าวว่า กลุ่มควันต่าง ๆ นับว่าเป็นสิ่งที่อันตรายต่อทารก ซึ่งการ ค้นพบครั้งนี้ ทำให้เราต้องกลับมาคำนึงถึงว่า มลภาวะไม่ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยโรคหอบหืด หรือคนสูงอายุเท่านั้น แต่มันสามารถก่อให้เกิดอันตรายแม้แต่กับเด็กทารก ที่เพิ่งจะเริ่มต้นชีวิตขึ้นมา และผลกระทบดังกล่าว ยังมีต่อเนื่องไปจนตลอดชีวิต
งานวิจัยชิ้นนี้ ได้ตีพิมพ์ใน
American Journal of Epidemiology ซึ่งมีกำหนดจะนำออกเผยแพร่ ในปลายเดือนธันวาคมนี้ โดยนักวิจัยระบุด้วยว่า จากการศึกษาจำนวนหลาย ๆ ครั้ง ทั้งในสหรัฐอเมริกา บราซิล ยุโรป เม็กซิโก เกาหลีใต้ และไต้หวัน พบความเกี่ยวพันธ์ที่ว่า ในสภาพอากาศที่เต็มไปด้วย
หมอกควันจะพบปัญหาในการให้กำเนิดทารก ไม่ว่าจะเป็น การให้กำเนิดทารกน้ำหนักตัวน้อย การคลอดก่อนกำหนด การแท้ง และการตายของทารกแรกเกิด
งานวิจัยชิ้นล่าสุดนี้ยังพบด้วยว่า
ผู้หญิงที่มีระดับโอโซน และคาร์บอนมอนออกไซด์สูง
จะมีความเสี่ยงต่อปัญหาเกี่ยวกับปากแหว่ง เพดานโหว่ถึง 3 เท่า
รวมไปถึงปัญหาเกี่ยวกับลิ้นหัวใจด้วย หลังจากที่พวกเขาได้ติดตามเก็บข้อมูลจากหญิงตั้งครรภ์ จำนวนนับพันคน ในเขต Los Angeles ในช่วงปี 1987 ถึงปี 1993 และนำข้อมูลมาเปรียบเทียบกันระหว่างผู้ที่อาศัยในแถบที่อากาศสกปรก และแถบที่อากาศดี
นักวิทยาศาสตร์ยังพบอีกว่า ความเสี่ยงสูงสุดจะเกิดขึ้นในระหว่างเดือนที่สองของการตั้งครรภ์ เมื่อตัวอ่อนพัฒนาอวัยวะ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นโครงสร้างของใบหน้า
Reference
http://www.cnn.com/2001/HEALTH/12/16/smog.birth.defects.ap/index.html