นอกจากนี้ ยังมีรายงานอีกว่า คนอเมริกันเพียงแค่ครึ่งหนึ่งเท่านั้น ที่เข้ารับการดูแลปากและฟันเป็นประจำ
นั่นทำให้ทันตแพทย์ส่วนหนึ่งคิดว่าน่าจะมีวิธีสร้างความผ่อนคลายให้กับผู้ที่มาทำฟัน เพื่อให้คนรู้สึกกลัวน้อยลงและหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพปากและฟันกันให้มากยิ่งขึ้น
เทคนิคที่เรียกว่า "spa" จึงถูกนำมาพิจารณาใช้ โดยเทคนิคดังกล่าว เป็นการสร้างความผ่อนคลายด้วยวิธีการนวดฝ่าเท้า ซึ่งจะทำให้ผู้เข้ารับการรักษากับทันตแพทย์ คลายความวิตกกังวล และวิธีการดังกล่าวนี้ ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกโดย Dr.Paul Tanners ทันตแพทย์แห่ง New York City
Dr. Paul Tanners บอกว่า คลินิคของเขาตั้งอยู่ที่ Madison Avenue ซึ่งเราไม่น่าจะเรียกมันว่า dental spa เสียทีเดียว เพราะในระหว่างการรักษานั้น ทางคลินิคไม่ได้มีฝานมะนาว มาแปะไว้บนเปลือกตาให้กับคนไข้ แต่สิ่งที่จัดเตรียมไว้ให้นั้น คือบริการนวดฝ่าเท้า เพื่อให้คนไข้รู้สึกสบายขึ้นในขณะที่ทันตแพทย์ กำลังดำเนินการรักษาคนไข้อยู่ การให้บริการดังกล่าว จะทำให้จิตใจของคนไข้ไม่จดจ่ออยู่กับความกลัวเจ็บปวด และเสียงเครื่องมือของทันตแพทย์ แต่จิตใจของคนไข้ จะไปอยู่ที่เท้าของตนเองแทน
คนไข้รายหนึ่งคือ Gary Weinstein เขาได้มารับการรักษาที่คลินิคของ Dr.Pual Tanner เมื่อเขารับการรักษาเสร็จ เขายังขอให้ทางคลินิคให้บริการนวดเท้าให้เขาต่ออีก 20 นาที โดยเขากล่าวว่า "มันไม่เลวเลยนะ เมื่อเรานั่งลง บริการนวดฝ่าเท้าก็เริ่มขึ้น ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีการนวดแขนและฝ่ามืออีกด้วย มันสบายมาก ๆ เลย สังเกตดูสีหน้าของผมเวลาที่ทำฟันอยู่สิ มันไม่เครียดเหมือนเมื่อก่อน แต่จะผ่อนคลายเหมือนกำลังนอนหลับฝันดี
สำหรับหน้าที่ในการสร้างความผ่อนคลายให้กับคนไข้ในระหว่างทันตแพทย์กำลังดำเนินการรักษาอยู่นั้น เป็นหน้าที่ของ Iza Everett ซึ่งเธอเรียกตัวเองว่า massage therapist เธอบอกว่า อาชีพนวดฝ่าเท้าปัจจุบันได้รับความนิยมมาก เธอแทบจะไม่มีเวลาว่างเลย นอกจากเธอจะทำงานที่คลิกนิคของทันตแพทย์ท่านนี้แล้ว Iza Everett ยังให้บริการอยู่ที่ Gloria Cabrera Salon and Spa ซึ่งอยู่ใน New York ด้วย และสำหรับการทำงานในคลินิคฟันนั้น นอกจากจะได้ผลตอบแทนที่ดีแล้ว ยังได้ความรู้สึกดี ๆ ด้วย เพราะเธอรู้สึกว่า เธอได้ช่วยให้บุคคลเหล่านั้น ผ่านช่วงเวลาของความเครียด ความกังวลใจไปได้ อีกทั้งยังทำให้พวกเขามีสุขภาพปากและฟันที่ดี มันให้อะไรมากยิ่งกว่า การนวดเท้าพวกเขา "คนไข้ที่เดินเข้ามารับการรักษา ส่วนใหญ่จะมาด้วยความเครียด แต่ในที่สุด พวกเขาก็รู้สึกรักการมาทำฟัน"
นอกจากนั้น American Dental Association ยังให้คำแนะนำอีกว่า การคลายความตึงเครียดให้ผลดีกับคนไข้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีอาการเจ็บป่วยด้วยโรคหัวใจอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ทางสมาคมยังเคยกล่าวไว้ด้วยว่า สำหรับผู้ที่เป็นโรคหัวใจนั้น ถ้าต้องเข้ารับการรักษาฟัน ควรจะแจ้งให้ทันตแพทย์ทราบถึงอาการเจ็บป่วย และทันตแพทย์ ก็ควรจะนัดวันให้มารับการรักษาในวันหลัง อย่างน้อยเป็นวันรุ่งขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจล้มเหลวในระหว่างการรักษาด้วย
สำหรับ Gary Weinstein นั้น เขาเป็นโรคหัวใจและเคยเข้ารับการผ่าตัดมาแล้วถึง 2 ครั้ง แม้กระทั่งการทำความสะอาดฟันด้วยเครื่องมือแพทย์ ก็ถือว่าเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการกำเริบของโรคหัวใจให้กับเขา ดังนั้น วิธีการนวดฝ่าเท้าร่วมด้วย นับว่าให้ผลดีกับคนไข้รายนี้มาก