การกินอาหาร ชีวจิต รักษาโรคมะเร็งได้หรือไม่?
คุณหมอคิดว่า การปฎิบัติตัวใน
การกินอาหารแบบชีวจิต
จะช่วยรักษาโรคมะเร็งโรคต่างๆได้หรือไม่?
ขอ
ตอบอย่างวิทยาศาสตร์
โดยอิงหลักเหตุผลครับ
ชีวจิต โดยคำแนะนำของ ดร.สาทิส หลักการเป็นสิ่งดี
นะครับ
ผมถือว่าเป็นกุศโลบายที่ดีมากในการแนะนำให้คนกินอาหารประเภทธัญพืชและผักใบเขียวมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ซึ่งเป็นสิ่งมีประโยชน์อย่างยิ่ง
ได้รับการพิสูจน์จริงว่าสามารถป้องกันการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ครับ
เนื่องจากอาหารที่มีกากมาก จะช่วยการขับถ่ายดีขึ้น มีอุจจาระค้างอยู่ในร่างกายน้อยลง โอกาสที่กากในอุจจาระ
เช่น เกลือน้ำดี จะถูกแบคทีเรียในลำไส้ย่อยกลายเป็น สารก่อมะเร็ง (carcinogen) น้อยลง ครับ
นอกจากนี้
อาหารประเภทนี้มีไขมันต่ำโดยเฉพาะไขมันสัตว์ ช่วยลดระดับไขมันในเลือดได้
กากอาหารยังทำให้การดูดซึมน้ำตาลและไขมันยากขึ้น ทำให้ระดับน้ำตาลและไขมันในเลือดลดลงได้ด้วย
แต่การรักษาโรคมะเร็งโดยการรับประทานอาหารประเภทนี้ ต้องบอกว่า
ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ทางการแพทย์ครับ
แม้ว่าจะมีตัวอย่างที่ ดร.สาทิส นำมาพูด
เนื่องจาก
การศึกษาว่าใช้ได้จริง ทางการแพทย์ต้องอาศัย
การศึกษาทางคลินิก (clinical study) ครับ
โดยต้องกำหนดว่าจะศึกษาอะไร เช่น
จะ
ศึกษาเปรียบเทียบการรักษามะเร็งโดยวิธีชีวจิต กับการรักษาโดยวิธีการแพทย์แผนปัจจุบัน
โดยแบ่งกลุ่มผู้ป่วย
ที่ศึกษา
"แบบสุ่ม" (randomized)
ครับ เพื่อให้ทั้งสองกลุ่ม มีการเจ็บป่วย พื้นฐานอายุ เพศ โรคประจำตัวอื่น ๆ
สภาพร่างกาย ระยะของโรค เท่ากัน แล้วนำมารักษาโดยชีวจิตกับแพทย์แผนปัจจุบัน และนำมาประเมินผล
เช่น อาการที่ดีขึ้น น้ำหนักตัว หรืออัตราการเจ็บป่วยนอนโรงพยาบาล อัตราการตาย "โดยใช้ผู้ประเมินผลอีกคนหนึ่ง
ไม่ใช่ผู้ทำการรักษา และไม่รู้ว่าใครรักษาด้วยวิธีใด" หรือเรียกว่า
blinded
เพื่อป้องกันสิ่งที่เรียกว่า
"bias"
หรืออคติ
ซึ่งอาจมีความโน้มเอียงให้คนรักษาประเมินผลในลักษณะเข้าข้างกับการรักษาด้านใดด้านหนึ่ง เมื่อนำมาเปรียบเทียบจึง
บอกได้ว่า ผลการรักษาด้วยวิธีชีวจิต ได้ผลดีจริงหรือไม่
แล้วทำไมต้องศึกษายุ่งยากอย่างนี้ด้วย ?
ทั้งนี้เนื่องจาก การจะสรุปผลการรักษาด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง ว่าได้ผลดีจริง มีความสำคัญ เพราะถ้านำไปใช้แล้วไม่ได้ผลตามนี้
จะเป็นผลเสียต่อผู้ป่วยโดยตรง
การศึกษาด้วยวิธี randomized double-blinded control ถือเป็นการศึกษาที่ดีที่สุด
เพราะตัดผลที่แปรปรวนได้เกือบทุกอย่าง ครับ
ถือเป็นมาตรฐานการศึกษาที่นำไปใช้อ้างอิงทางการแพทย์ทั่วไป
แล้วตัวอย่างผู้ป่วยที่รักษากับ ดร.สาทิส แล้วหาย ?
ถ้าให้ตอบอย่างเป็นกลาง ผม
สรุปไม่ได้ครับว่ารักษาได้ผลจริง
เพราะ
1.
ไม่มีการบอกรายละเอียด
ว่า มีผู้ที่รักษาแล้วไม่ได้ผลบ้างหรือไม่ เทียบกับผู้ที่ได้ผลแล้ว คนที่มารักษาแล้ว
หายกี่คน ไม่หายกี่คนนำไปเทียบกับรักษาปกติ หายเท่ากันหรือไม่
2.ผู้ที่รักษาโดยวิธีนี้
มีการตรวจยืนยันว่าเป็นมะเร็งหรือไม่ ระยะใด
มารักษาด้วยชีวจิตอย่างเดียว
หรือรักษาควบกับแพทย์แผนปัจจุบัน ถ้ารักษาควบกันแล้วหาย วิธีใดทำให้ผู้ป่วยหายจากโรค
3. ถ้ารักษาทางชีวจิตแล้วหาย
ยืนยันด้วยวิธีใดว่าหาย บอกจากอาการว่าดีขึ้น สบายดี เพียงพอหรือไม่
หรือว่ามะเร็งอยู่ในระยะสงบ ไม่ลุกลาม มะเร็งบางชนิดมีการดำเนินโรคช้า ไม่รุนแรง
4.
ถ้ารักษาด้วยวิธีแพทย์แผนปัจจุบันแล้วไปรักษาต่อด้วยชีวจิต แล้วหาย เป็นเพราะว่าชีวจิตทำให้หาย
หรือว่าเพราะการรักษาแผนปัจจุบัน ทำให้โรคดำเนินไปจนกระทั่งหายแม้ว่าจะไม่รักษาด้วยชีวจิต
5. ถ้ารักษาด้วยชีวจิตอย่างเดียวยืนยันว่าหายแน่ แล้วผู้ป่วยในระยะเดียวกันรักษาด้วยแผนปัจจุบัน หายเหมือนกันหรือไม่
6. ถ้ารักษาด้วยชีวจิตอย่างเดียว หายแน่นอน มีกี่รายที่หายเช่นนี้ เป็นทุกรายหรือไม่ หรือว่า
รายนี้หาย รายอื่นตายหมด
(แต่ไม่บอก)
ที่ยกตัวอย่างนี้เป็นคำถามคร่าว ๆ ที่จะต้องค้นหาให้ได้ก่อน ที่จะบอกว่า การรักษาด้วยวิธีนี้หายได้จริงครับ
แล้วทำไมแพทย์ไม่เห็นมาแนะนำอะไร พอชีวจิต boom ก็ออกมาต่อต้าน ?
แพทย์ส่วนใหญ่ไม่มีใครต่อต้านหรอกครับ
ทุกคนเห็นด้วยว่าสิ่งที่ ดร.สาทิส แนะนำเป็นสิ่งมีประโยชน์
แต่ที่ทักท้วงคือ ดร.สาทิส อธิบายบางส่วนถูกต้องก็จริง แต
่มีหลายสิ่งที่อธิบายไม่ถูกต้อง
เช่น
น้ำเอ็นซัยม์ กินแล้วร่างกายดูดซึมไปใช้ได้ ต้องคั้นสด ๆ เป็นน้ำ ห้ามเคี้ยว
เป็นต้น
ขออธิบายว่า
เอ็นซัยม์ ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายไม่ได้เด็ดขาดครับ
เพราะร่างกายจะดูดซึมสารอาหารใดผ่าน
ระบบทางเดินอาหาร ต้องถูกย่อยเป็นโมเลกุลขนาดเล็กสุด เช่น แป้งจะย่อยเป็นน้ำตาลกลูโคส, น้ำตาลทรายต้องย่อยเป็นกลูโคส
และฟรุคโตส, โปรตีนก็ต้องย่อยเป็นกรดอะมิโน แล้วจึงจะดูดซึมสารเหล่านี้ได้
เอ็นซัยม์เป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง ต้องถูกย่อยเป็นกรดอะมิโนก่อนจึงจะดูดซึมได้ครับ และเข้าไปแล้วก็ไม่ออกฤทธิ์ใด ๆ ครับ
ส่วนระบบอิมมูนก็เช่นกัน
ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญในร่างกายและดร.สาทิส ก็อธิบายได้ละเอียดถูกต้อง
แต่จะอธิบายเรื่องมะเร็งนี่ก็เห็นจะไม่ถูกเสียทีเดียว
ความเชื่อเรื่องความผิดปกติของอิมมูนทำให้เกิดมะเร็ง
ทางการแพทย์คิดมานานแล้ว
ว่าเพราะระบบภูมิคุ้มกันไม่สามารถค้นหาและทำลายเซลผิดปกติได้
จึงทำให้เซลเหล่านี้โตขึ้นเป็นมะเร็งได้
แต่เมื่อศึกษาไปเรื่อย ๆ ก็พบว่า
การเกิดมะเร็งไม่ได้เกิดจากความผิดปกติที่กลไกนี้เป็นเรื่องหลัก
แต่เกิดจากความผิดปกติในระดับพันธุกรรมของเซล ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ยอมรับทั่วโลกแล้วครับ ว่า
พันธุกรรมเซลที่ผิดปกติ เป็นต้นกำเนิดของเซลมะเร็งครับ
ข้อแนะนำของแพทย์นั้น มีมานานแล้วเรื่องการรับประทานอาหารที่มีกากและเส้นใยมาก เพียงแต่ไม่มีสิ่งจูงใจให้ประชาชนปฏิบัติตาม
เช่นการยกตัวอย่างมะเร็งในการรักษาแบบชีวจิตครับ ถ้าลองอ่านหนังสือหรือมองไปรอบ ๆ ตัว จะเห็น
สิ่งที่แพทย์แนะนำอยู่มากมาย
แต่มันมากและบ่อยเสียจนคนทั่วไปคิดว่า
มันไม่ค่อยมีความสำคัญหรือเป็นสิ่งที่คุ้นเคยไม่แปลกใหม่เท่ากับการตื่นตัวเรื่องชีวจิตครับ
ขอให้ข้อคิดเอาไว้ครับ เพราะอย่างน้อย
ถ้าจะปฏิบัติตามชีวจิตก็ไม่เห็นว่าจะเสียหายอะไร
เพียงแต่อย่าทุ่มสุดตัวไปในทางที่เรายังไม่ได้พิสูจน์ และละทิ้งในสิ่งที่มีมานานอย่างแพทย์แผนปัจจุบัน
ถ้าเกิดผลเสียใด ๆ ก็ไม่อาจควบคุมหรือไปเรียกร้องกับใครได้ครับ เพราะไม่มีใครควบคุมมาตรฐาน
โดย
นพ.มานพ พิทักษ์ภากร
อายุรแพทย์
This Web Page Design & Created by
Dr.OU
20 Sep 1998
Powered by
Copyright (c) 1998.
ThaiClinic.com
. All rights reserved.