สวัสดีครับ
- ควรต้องเตรียมทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะเป็นเรื่องระหว่างคนสองคน
- ต้องมีการเตรียมทั้งตัว และใจ โดยเฉพาะใจ เพราะต่อไปต้องอยู่ร่วมกันสองคน อาจมีกระทบกระทั่ง ต้องพยายามปรับตัว และปรับความเข้าใจเข้าหากัน
- การไปพบแพทย์ตรวจก่อนแต่ง ก็ควรไปทั้งสองคน
โดยนอกจากแพทย์จะตรวจร่างกายทั่ว ๆ ไป แล้ว ก็จะมีการตรวจเลือดบางอย่าง ดังนี้คือ
กลุ่มเลือด, ภาวะโลหิตจาง, ธาลาซีเมีย, ตับอักเสบบี, ซิฟิลิส, เอดส์
และเพิ่ม หัดเยอรมัน ในผู้หญิง
- เรื่องวัคซีน ที่สำคัญ ก็มี
วัคซีนป้องกัน
ไวรัสตับอักเสบบี (หากคู่สมรสเป็นพาหะ หรือตรวจพบเชื้อในเลือด)
วัคซีนป้องกันหัดเยอรมัน (เฉพาะผู้หญิง หากตรวจพบว่า ยังไม่มีภูมิคุ้มกัน)
เนื่องจากทั้งสองโรคนี้ อาจติดต่อไปยังลูกได้
โดยต้องฉีดก่อนการตั้งครรภ์อย่างน้อย
3 เดือน
วัคซีนป้องกันบาดทะยัก โดยทั่วไปจะฉีด ตอนตั้งครรภ์
- ปรึกษากันเพื่อวางแผนครอบครัว
หากยังไม่พร้อมจะมีบุตร อาจกินยาคุมกำเนิดไว้ก่อน หรือใช้ถุงยางอนามัย
หากพบว่า ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด มีเชื้อโรคเอดส์ ก็ต้องปรึกษากัน เพื่อวางแผนในการดำเนินชีวิตต่อไป ถ้ายังยืนยัน จะแต่งงานกัน ก็ต้องมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย
โดย นพ.นพวัชร์ สมานคติวัฒน์
|