ปวดศีรษะอย่าคิดว่าไม่สำคัญ
ไม่ว่าจะเป็นเด็ก
ผู้ใหญ่ หรือคนชรา
ต่างก็ต้องเคยเจอ กับอาการปวดศีรษะมาแล้วทั้งนั้นและขณะนี้ แพทย์ได้กระตุ้น ให้ผู้คนหันมาให้ความสำคัญกับอาการปวดศีรษะกันอย่างจริงจัง และเข้ารับการรักษาอย่างถูกวิธี ซึ่งวิธีการรักษาดังกล่าว อาจจะเพียงแค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดำเนินชีวิตประจำวัน บางอย่าง ลดอาหาร หรือแม้กระทั่ง ใช้ยาในการบำบัดรักษา |
สำหรับผู้ใหญ่ ที่มีอาการปวดศีรษะ จะพบว่าส่วนมาก จะเป็นผู้ที่ต้องทำงานหนัก และทำงานได้มาก
ในขณะที่เด็ก ๆ ที่มีอาการปวดศีรษะ มักจะส่งผลเสียต่อการเรียนการสอนในโรงเรียนอาการปวดศีรษะส่งผลต่อการทำงานโดยตรง
มีการศึกษาพบว่าในช่วงนี้อาการปวดศีรษะมีส่วนเกี่ยวเนื่องกับความเครียดมากทีเดียว
โดยเฉพาะผู้ที่มีความเครียดในเรื่องของสถานภาพทางการเงิน ซึ่งนักวิจัยจาก Michigan Head Pain
and Neurological Institute ได้ติดตามผู้ป่วยที่มีอาการปวดศีรษะ และได้รับการรักษาตามปกติ
ซึ่งผู้ป่วยรายหนึ่งคือ Marcia Hoeck ที่มีอาการไมเกรน และอ่อนเพลีย บอกว่า อาการดังกล่าว
ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานของตนเอง ซึ่งเธอมีบริษัททำการตลาดของตนเอง
นอกจากนี้ เธอยังรู้สึกว่าเธอสูญเสียพลังสมองบางครั้งรู้สึกว่าตนเองโง่เง่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
เมื่อเกิดมีอาการดังกล่าวในที่ประชุม นอกจากนี้ Marcia Hoeck ยังกล่าวด้วยว่า เธอหมดค่าใช้จ่ายกับการเยียวยาอาการปวดศีรษะไปไม่น้อยแล้วDr. Joel Saper หนึ่งในคณะนักวิจัย ให้ตัวเลขเพิ่มเติมด้วยว่าอาการปวดศีรษะนับว่าเป็นโรคที่สิ้นเปลือง
ค่าใช้จ่ายอีกโรคหนึ่ง โดยในสหรัฐอเมริกา อาการดังกล่าวทำให้เกิดค่าเสียหายต่อปีประมาณ
๑๗,๐๐๐ล้าน ดอลล่าร์สหรัฐ รวมไปถึงค่าเสียหาย จากผลการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพและการเสียเวลานักวิจัยแนะนำว่า การหาทางจัดการกับปัญหาการปวดศีรษะ ซึ่งน่าจะเรียกได้ว่าเป็น Economic Pain
จะต้องมีการจัดเตรียมการบำบัดรักษาอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในบริษัทห้างร้านที่มีพนักงาน
ประสบปัญหานี้ ก็จะต้องส่งเสริมให้พนักงานมีความเข้าใจ และรับการรักษาอย่างถูกต้อง ไม่เช่นนั้น
ก็จะเกิดปัญหาต่อผลผลิตของทางบริษัทต่อเนื่องไป
Marcia Hoeck ยังเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการรับการรักษาอาการปวดศีรษะของเธอด้วยว่า
เธอรับทั้งยา และ Biofeedback ที่ช่วยทำให้อาการต่าง ๆ ดีขึ้น และส่งผลโดยตรงต่อการทำงาน
ที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นของตัวเธอเอง และยังกล่าวด้วยว่าเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจสำหรับ
ผู้ที่มีอาการปวดศีรษะ และถ้าหากพนักงานของเธอ มาบ่นว่ามีอาการเช่นนั้นให้เธอได้ยิน
เธอจะแนะนำให้หาทางรักษาโดยทันทีเด็ก ๆ ก็ปวดศีรษะเหมือนกัน
อาการปวดศีรษะ ไม่ใช่ปัญหาของผู้ใหญ่เท่านั้น เด็ก และคนหนุ่มสาวกว่าล้านคนทุกทรมาน
กับอาการดังกล่าว กรณีศึกษารายหนึ่งคือ Caitlin Zaino วัย ๑๗ ปี ระบุว่า เธอต้องทุกทรมาน
กับการปวดศีรษะ มาตั้งแต่อายุ ๘ ปี ซึ่งโดยทั่ว ๆ แล้ว เธอจะรู้สึกเหมือนโดนอะไรทุบ มี Pressure
อยู่ที่ศีรษะ และไซนัส ซึ่งจะทำให้รู้สึกปวดตามาก บางครั้งปวดไปถึงฟันเลยทีเดียว
ยิ่งไปกว่านั้นเธอเล่าว่า อาการปวดศีรษะนี้ เป็นปัญหาในระหว่างการเรียนของเธอด้วยCaitlin Zaino เล่าต่อว่าเมื่อตอนเรียนในระดับประถม เธอต้องขาดเรียนบ่อย เพราะอาการป่วย
ดังที่เล่ามา Dr.Irving Fish แพทย์ Pediatric Neurology แห่ง New York University Medical Center กล่าวว่า ปัญหาข้างต้นไม่ได้เกิดกับ Caitlin Zaino เพียงคนเดียว
แต่มีเด็กในวัย ๑๗ ปี อีกร้อยละ ๘๕ ที่มีปัญหาการปวดศีรษะอย่างต่อเนื่องจนเรียกได้ว่าเป็นอาการป่วย
และในจำนวนนั้น เด็กอีกร้อยละ ๑๐ ถึง ๑๕ ต้องขาดเรียน
สำหรับเด็ก และวันรุ่นแล้วโดยมากอาการปวดศีรษะจะมาจากไมเกรนซึ่งต่างจากผู้ใหญ่ที่จะมีหลายสาเหตุ
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มอาการปวดเรื้อรัง ทีมีความเครียดเป็นสาเหตุ ซึ่งพบได่บ่อยเช่นกัน
แต่กลุ่มที่พบไม่บ่อยนัก จะเป็นอาการทางสมอง เช่นเลือดออกในสมอง การติดเชื้อ และเนื้องอกในสมองผู้เชี่ยวชาญได้แนะนำวิธีการสังเกตอาการปวดศีรษะของเด็ก ๆที่แสดงให้เห็นว่าอาจเป็น
ปัญหารุนแรงด้วยว่า เด็กจะมีอาการปวดศีรษะ พร้อมด้วยอาการอื่น ๆ เช่น มีความไวต่อแสง หรือเสียง,
มีอาการอาเจียนร่วมด้วย, หรือเด็กไม่ยอมเข้ากลุ่มเล่นกับเพื่อนเพราะบอกว่าปวดศีรษะ
นั่นเป็นสิ่งบอกเหตุว่า เด็กจะต้องได้รับการตรวจรักษาแล้ว
Dr. Irving Fish กล่าวต่อว่า การรักษาอาการปวดศีรษะ ที่เป็นอย่างต่อเนื่องนั้นมีวิธีการ
มากกว่าการรับประทานยา โดยอาจจะต้องใช้วิธี Multidisciplinary ที่ประกอบไปด้วย
Nurse-Practitioner สำหรับผู้ที่ระบุว่าอาการปวดศีรษะมีสาเหตุมาจากรูปแบบการดำเนินชีวิต,
การปรับเปลียนระบบการทำงาน สำหรับผู้ที่มีอาการเนื่องจากความเครียด,และการดูแลเรื่อง
อาหารการกินสำหรับผู้ที่มีโภชนาการไม่ดี รวมไปถึงผู้ที่มีอาการเนื่องจากไมเกรนด้วย ในกรณีของ Caitlin Zaino
นั้น อาการปวดศีรษะเกี่ยวเนื่องกับความเครียด และเมื่อเริ่มแรกที่เธอ เข้ารับการรักษา
เธอบอกกับแพทย์ว่าชีวิตของเธอไม่มีทางที่จะดีขึ้น แต่ปัจจุบัน อาการต่าง ๆ ดีขึ้น
และเธอจะเข้ารับการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยในฤดูใบไม้ร่วงนี้
Cover Story from CNN Health
Created and Desiged by หมออู๋
1 July 1999
Copyright (c) 1998-1999, ThaiClinic.com. All Right Reserved.