งานวิจัยชิ้นแรก พบว่า ระดับไขมันในเส้นเลือดของผู้สูงอายุชาวอเมริกันจำนวน ๒๓๓ ราย

ก่อนที่จะเริ่มให้สารอาหารกับกลุ่มตัวอย่างที่เข้ารับการทดสอบ คณะนักวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างเหล่านี้
มีระดับไขมันในเส้นเลือดเล็กน้อย ถึงปานกลางค่อนข้างสูง โดยปริมาณเฉลี่ยจะอยู่ที่ ๒๔๒ mg/dL
 ซึ่ง AHAระบุว่า คนทั่วไปควรมีระดับไขมันในเส้นเลือดไม่เกิน ๒๐๐ mg/dL ส่วนปริมาณในระดับที่
มากกว่า ๒๔๐ mg/dL ถือว่าสูงเกินไป
 
ผลงานวิจัยแรกนี้ กระทำโดยแพทย์ในเมืองต่าง ๆ กันรวมทั้งสิ้น ๑๒ คน และแพทย์ ๑ ใน ๑๒ คนนี้
อยู่ในมหาวิทยาลัย ส่วนแพทย์อีก ๑๑ รายที่เหลือนั้น ไม่ได้ทำงานเกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยแต่อย่างใด
 
งานวิจัยชิ้นที่สอง
งานวิจัยชิ้นที่สอง ดำเนินการในจีน ซึ่งพบว่า ระดับไขมันในเส้นเลือดของผู้สูงอายุ ๗๐ รายที่ตรวจพบว่า
สูงเกินไปนั้น  ลดลงร้อยละ ๑๙ เมื่อรับสาร Cholestin
อย่างไรก็ตาม Dr. Robert H. Eckel คณะกรรมการด้านโภชนาการและผู้เชี่ยวชาญด้านยาของ ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพ
ของ University of Colorado กล่าวว่า ปัจจุบันมียาที่ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ซึ่งวางจำหน่ายทั่ว ๆ ไปอยู่มาก
และยาเหล่านี้ สามารถลดระดับไขมันดังกล่าวได้ประมาณ ร้อยละ ๒๕ ถึง ๕๕ อีกทั้งยาเหล่านี้ ยังใช้งานได้ดี
และปลอดภัย เพราะได้มีการใช้กันมานานนับสิบปีแล้ว
นอกจากนี้ Dr. Robert H. Eckel ยังกล่าวด้วยว่า โดยส่วนตัวแล้วเขาจะไม่ใช้สาร Cholestin กับผู้ป่วย
จนกว่าจะแน่ใจความปลอดภัย และวิธีการใช้งานอย่างถูกต้อง

Cholestin คืออะไร
Cholestin คือเครื่องปรุง ที่ทำมาจากข้าวหมักใน Red Yeast ซึ่งชาวจีนนำมาใส่ในอาหารบางชนิด
 เช่น เป็ดปักกิ่ง ซี่โครงหมู เพื่อให้มีสีแดง  บริษัท Pharmanex ระบุว่า ข้าวมีสารอาหารที่มีคุณประโยชน์
สูงอยู่มากมาย และการช่วยลดไขมันในเส้นเลือดก็ประโยชน์ที่สำคัญของข้าวอย่างหนึ่งด้วย แต่เครื่องปรุง
ที่สกัดออกมาจากข้าวนั้น มีความเข้มข้นมากกว่า
 
Joseph Chang ผู้บริหารของบริษัท Pharmanex กล่าวว่า จากการศึกษายังไม่พบผลข้างเคียงของสาร Cholestin
ยกเว้นในกรณีศึกษาบางรายอาจมีลมในท้องมาก Flatulence และทางบริษัทได้เข้าพบแพทย์ในมลรัฐต่าง ๆ
ทั่วสหรัฐอเมริกา เพื่อพยายามให้แพทย์เหล่านั้นใช้สาร Cholestin รักษาผู้ป่วยด้วยโรคไขมันในเส้นเลือดสูง
เมื่อปีที่แล้ว องค์การอาหารและยาของสหรัฐ ห้ามไม่ให้มีการนำเข้า Red Yeast Rice จากเมืองจีน
โดยบอกว่าสารดังกล่าวนั้นเป็นยาไม่ใช้เครื่องปรุงอาหาร แต่เมื่อเดือนที่แล้ว ผู้พิพากษาศาลแห่ง Salt Lake City
มลรัฐยูท่า ได้พิจารณาใหม่ และอนุญาติให้มีการนำ Cholestin มาจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาได้
 
http://www.cnn.com/HEALTH/9903/25/cholestin/index.html