เส้นเอ็นฝ่าเท้าอักเสบ
ซึ่งพบได้บ่อย ในผู้หญิงวัยกลางคน ผู้ที่อ้วน หรือ มีรูปเท้าผิดปกติ เช่น เท้าแบน เท้าบิด
ส่วนสาเหตุของการเกิดโรคที่แท้จริงยังไม่ทราบ แต่ เชื่อว่าเป็นเพราะความเสื่อมในจุดที่เส้นเอ็นฝ่าเท้าเกาะกับกระดูก
เส้นเอ็นฝ่าเท ้าจะเกาะอยู่ระหว่างส้นเท้ากับนิ้วเท้า เมื่อเส้นเอ็นหรือกระดูกบริเวณส้นเท้า ได้รับแรงที่มากเกินไป เช่น การยืนหรือเดินนาน ๆ น้ำหนักตัวมาก อุบัติเหตุ หรือ ใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะสม เป็นต้น ทำให้เส้นเอ็นฝ่าเท้าอักเสบได้
อาการปวด อาจจะปวดแบบตื้อ ๆ หรือ ปวดอย่างรุนแรงก็ได้ ถ้ากระดกข้อเท้าขึ้นหรือกดที่ส้นเท้า จะปวดมากขึ้น
ลักษณะที่พบได้บ่อย คือ หลังจากนอนหรือนั่งพัก เมื่อเริ่มลงน้ำหนัก ลงเดิน ช่วงแรก ๆ จะรู้สึกปวดมาก แต่หลังจากที่เดินไปได้สักพัก อาการปวดก็จะทุเลาลง
แพทย์สามารถวินิจฉัยโรคได้จากการถามประวัติและการตรวจร่างกาย ไม่จำเป็นต้องส่งตรวจพิเศษอย่างอื่น
ผู้สูงอายุประมาณร้อยละ 30-70 ถ้าถ่ายภาพรังสีของเท้า จะพบว่ามีกระดูกงอกที่ไต้ฝ่าเท้าได้ ดังนั้น ถึงแม้ว่าจะพบกระดูกงอก จากการถ่ายภาพรังสี แต่ก็อาจจะไม่เกี่ยวกับอาการปวดส้นเท้า
จึงไม่จำเป็นต้องถ่ายภาพรังสีทุกคน
ผู้ป่วยเส้นเอ็นฝ่าเท้าอักเสบ โดยส่วนใหญ่อาการต่าง ๆ จะค่อย ๆ ดีขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด แต่อาจจะต้องใช้เวลารักษานานหลายเดือน แต่ถ้าหลังจากรักษา 6 - 9 เดือน แล้วอาการไม่ดีขึ้นก็อาจจะต้องรักษาด้วยวิธีผ่าตัด ซึ่งจะต้องใช้เวลารักษาหลังผ่าตัดอีก 2 - 6 เดือน จึงจะดีขึ้น
สำหรับผู้ที่มีอาการมานานมากกว่า 1 ปี หรือ มีน้ำหนักมาก การรักษามักจะได้ผลไม่ค่อยดี ต้องใช้เวลานาน