1.ให้
ทพ.ฟอกในคลีนิกโดยใช้ hydrogen peroxide หรือ carbamide peroxide ความเข้มข้นสูง
30-35%
ฟอกสีฟันโดยใช้ความร้อนหรือแสงช่วย
จะเห็นผลเร็ว ไม่ต้องอมถาดฟอกสีฟันที่บ้าน ให้เกิดความรำคาญ
แต่อาจต้องเสียเวลามาที่คลีนิก1-6
ครั้ง แสงอาจเป็นแสงที่ฉายวัสดุอุดฟัน แสงโคม
ฯลฯ
ส่วนแสงเลเซอร์ไม่แน่ใจว่าในบ้านเราจะมีคลีนิกหรือรพ.ไหนไว้ฟอกสี เพราะราคาแพง
2.ให้
ทพ.ทำถาดฟอกสีเฉพาะตัวใส่เจลฟอกสีฟันไปอมเองที่บ้าน เจลมักเป็น carbamide
peroxide 10 %
ต้องอมในปากราว4-6
ชม. ต้องอยู่ในความควบคุมของทพ.ที่จะปรับระยะเวลาใช้เจลบางชนิด
สามารถปรับความเข้มข้นได้
ซึ่งควรให้ทพ.เป็นผู้ปรับเช่นกันมิฉะนั้นอาจเกิดอันตราย
กับเนื้อเยื่อในช่องปาก
3.
ซื้อเองที่ซุปเปอร์มาร์เกต มาฟอกเอง แต่ค่อนข้างเสี่ยง
เพราะ ถาดฟอกมักขอบไม่พอดีกับฟันของแต่ละคน
ยาอาจเกินมาที่เหงือก
กัดเนื้อเยื่อในช่องปากเป็นอันตรายได้
นอกจากนี้คนไข้มักอยากขาวเร็ว
เลยใช้ยาทั้งเยอะและบ่อย อาจมีอันตรายกับเคลือบฟันได้
ผู้ป่วยที่ฟอกสีฟันต้องขูดหินปูนจนเหงือกไม่อักเสบอุดฟันให้เรียบร้อยที่รอยผุ
เพราะเจลฟอกสีฟัน
อาจเข้าไปที่รอยผุถึงโพรงประสาทฟันทำให้ปวด-เสียวได้
การฟอกสีฟันในแต่ละบุคคลจะมีผลการตอบสนองที่แตกต่างกันจาก
1
.ตำแหน่งสี ถ้าอยู่ในเนื้อฟันจะฟอกยากใช้เวลานานกว่า
2
.ความเข้มและชนิดของสี สีที่อ่อนจะฟอกง่ายและเร็ว
สีที่ตอบสนองต่อการฟอกได้ดี จากมากไปน้อย
คือ
เหลือง
เทาอ่อน น้ำตาลอ่อน เหลืองเข้ม น้ำตาลเข้ม เทาดำ
สีที่ฟอกอาจกลับมาคล้ำใหม่ใน3-8
ปีขึ้นกับสีของแต่ละบุคคล
สีวัสดุอุดที่มีสีเหมือนฟันเดิมจะไม่ซีดไปตามการฟอก
พอฟอกจนขาวแล้วต้องอุดใหม่
ภายหลังฟอกจนสีคงที่ประมาณ
1 สัปดาห์
ราคาถ้าฟอกทั้งปากตกประมาณ
6000-10000 ขึ้นกับวิธีการของทันตแพทย์
โดย
ทญ. จุฑารัตน์ จินตกานนท์