ThaiClinic.Com (http://www.thaiclinic.com/cgi-bin/wb_xp/YaBB.pl)
ห้องถามตอบสุขภาพ >> ทันตกรรม >> รากฟันอักเสบ
(Message started by: DaNO on 04/24/11 เวลา 17:55:37)

Title: รากฟันอักเสบ
ส่งโดย DaNO on 04/24/11 เวลา 17:55:37
เรียน คุณหมอ

ฟันหน้าเคยรักษารากฟันมาแล้ว 30 ปี เหงือกเป็นหนอง เลยไปให้ทันตแพทย์ โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งรื้อเดือย หมอบอกว่าเพราะที่รักษารากฟันไม่ได้อุดรากฟัน รากฟันจึงเน่า  

หมอบอกว่าจะเมื่ออุดรากฟันแล้ว จะเก็บรากฟันไว้ก็ได้ เพื่อเหงือกจะได้ไม่ยุบ แล้วใส่ฟันปลอม  แต่ถ้าจะให้ใส่เดือยใหม่ แล้วครอบฟัน อาจมีผลทำให้เหงือกเป็นหนองได้อีก แล้วค่ารักษาก็แพงด้วย ค่าเดือย 2500 บาท ฟันครอบ 12000 บาท รวม 14500 บาท

ใส่ยา 4 ครั้งแล้ว หนองที่เหงือกยังมีอยู่เลยค่ะ

ขอถามคุณหมอว่า ควรจะเลือกรักษาอย่างไรดี


D.

Title: Re: รากฟันอักเสบ
ส่งโดย หมอหนิง on 04/25/11 เวลา 00:13:32
จากที่อ่าน คนไข้ก็มีข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาพอสมควรแล้ว ทั้งข้อดีและข้อเสีย ในแต่ละวิธี (รักษารากฟันต่อ หรือ การถอนฟันแล้วใส่ฟันปลอม)

ฉะนั้นหมอคงตอบฟันธงไม่ได้ อยู่ที่การตัดสินใจของคนไข้มากกว่า

โดยส่วนตัว ก็อยากให้เก็บฟันไว้เท่าที่จะทำได้ แต่ถ้าสุดๆ แล้ว ไม่สามารถเก็บไว้ได้ (ซึ่งหมอคงตอบตรงนี้ไม่ได้ เพราะ ไม่ใช่ผู้รักษาโดยตรง) ก็ควรถอนออก แล้วใส่ฟันปลอม คนไข้ต้องอย่าลืมว่าฟันปลอมที่ดีๆ สวยๆ ก็ราคาสูงเช่นกันนะคะ (หลายหมื่น)

Title: Re: รากฟันอักเสบ
ส่งโดย DaNO on 04/25/11 เวลา 19:19:44
ขอบคุณหมอหนิงมาก

แต่ที่ต้องการทราบ คือ second opinion ของทันตแพทย์ท่านอื่น ๆ เพราะคนไข้ก็ไม่มีความรุ้ ที่รู้ก็เท่าที่หมอบอกมา

ต้องการทราบว่า ถ้าใส่เดือยใหม่อีกครั้ง จะอยู่ได้กี่ปี เพราะหมอที่รักษา บอกว่าเขาก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าจะอยู่ได้อีกกี่ปี ถ้าอยากทำก็ทำ ไม่ทำก็ให้ใส่ฟันปลอมน่ะค่ะ

D.

Title: Re: รากฟันอักเสบ
ส่งโดย หมอหนิง on 04/25/11 เวลา 19:52:31
เป็นการยากที่จะวินิจฉัยโรค หรือบอกโอกาสประสบความสำเร็จของการรักษาผ่านทางอินเตอร์เน็ต หมอสามารถให้ข้อมูลได้เพียงคร่าวๆ เท่านั้น คงไม่อาจเรียกว่า second opinion ได้เต็มปากนัก :)

หมอแนะนำว่า หากคนไข้กังวลในสภาพฟัน หรือทางเลือกในการรักษาอื่นๆ หมอแนะนำให้คนไข้ไปหาคุณหมอตัวเป็นๆ ให้เขาตรวจดู คนไข้สามารถหาคุณหมอได้จำนวนมากที่สุด จนกว่าคนไข้จะมั่นใจที่จะตัดสินใจอะไรในการรักษา  หมอไม่ได้พูดล้อเล่น เพราะหมอเอง ก็ทำบ่อยๆ เมื่อจำเป็นต้องตัดสินใจอะไรที่ค่าใช้จ่ายสูง หรือมีความสำคัญ

เรื่องอายุของฟัน หลังจากใส่เดือยฟันใหม่ ... ไม่มีตัวเลขที่แน่นอนเจาะจง เพราะมีหลายปัจจัยที่จะเบี่ยงเบนผลการรักษา เคยมีงานวิจัยของฝรั่งฉบับหนึ่ง บอกไว้ว่า ฟันที่รักษารากฟันมาแล้ว มีอายุประมาณ10 ปี โดยฟันกราม จะมีอายุสั้นกว่าฟันหน้า (ฟันหน้ามีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่าฟันกราม)

อีกทั้งพบว่า ฟันที่รักษารากฟันซ้ำ โอกาสประสบความสำเร็จจะลดลง ยิ่งรักษาซ้ำ (โรคไม่หาย) หลายครั้ง โอกาสหายก็จะยิ่งลดลง นั่นเอง

นี่ก็เป็นข้อมูลคร่าวๆ ที่หมอ พอจะให้เป็นข้อมูลสำหรับคนไข้ได้ ส่วนจะตัดสินใจอย่างไร ก็คงเป็นสิทธิ์ของคนไข้นะคะ

โดยความเห็นส่วนตัวของหมอ ถ้ามีทางเลือกในการเก็บฟันไว้ หมอจะเลือกการเก็บฟันไว้ค่ะ เพราะการใส่ฟันปลอม ไม่ใช่เรื่องง่ายดาย และฟันปลอมมีประสิทธิภาพในการบดเคี้ยวน้อยกว่าฟันธรรมชาติแน่นอน :)

Title: Re: รากฟันอักเสบ
ส่งโดย DaNO on 04/26/11 เวลา 07:50:05
ขอบคุณอีกครั้งค่ะ  ทางเลือกในการเก็บฟันไว้ ในตอนนี้ก็คงต้องใส่เดือยใหม่อีกครั้ง แล้วครอบฟันที่มีทองผสม (หมอฟันท่านนั้นแนะนำ) แต่ที่กังวลไม่ใช่เรื่องเงินค่ารักษา (เพราะเตรียมเงินไว้แล้ว) กังวลเรื่องมันจะอยู่ได้ไม่นาน แล้วเป็นหนองขึ้นมาอีก มันจะไม่คุ้ม

คำถาม รากฟันที่อุดเรียบร้อยแล้ว สามารถผุอีกได้หรือไม่ และการใส่ยารักษารากฟัน โดยทั่วไปต้องใส่ยากี่ครั้งคะ

D.

Title: Re: รากฟันอักเสบ
ส่งโดย หมอหนิง on 04/26/11 เวลา 12:26:44
เรื่องอยู่ได้นานหรือไม่นาน คงบอกไม่ได้จริงๆ แต่เราสามารถแบ่งปัจจัยแบบคร่าวๆ ที่จะส่งผลให้การรักษาอะไรก็ตาม ออกมาดีหรือไม่ดี คือ

1. เชื้อโรค เชื้อโรคถ้าไม่ถูกกำจัดให้หมดไป โอกาสหายก็น้อยลง
2. หมอ หมอที่มีความชำนาญ มีประสบการณ์ ก็จะรักษาได้เก่งกว่า
3. ตัวคนไข้เอง บางครั้ง คุณหมอรักษาให้อย่างไร แต่ร่างกายไม่ตอบสนอง โรคก็ไม่หาย

-------------------
คำตอบ
- รากฟันที่อุดแล้ว อาจผุตรงผิวรากฟัน แต่ถ้าผุจากด้านในเอง คงไม่ได้ การที่โรคไม่หาย เกิดจากเชื้อโรคที่ฝังอยู่ในเนื้อฟัน หรือตามโพรงประสาทฟันย่อยๆ ที่ทำความสะอาดได้ยากมากกว่า บางครั้ง รากฟันก็ซับซ้อนมาก จนไม่สามารถรักษารากฟันได้ก็มี
- การใส่ยากี่ครั้ง ไม่มีสูตรแน่นอน ส่วนใหญ่จะใช้วิธีทดสอบหลายๆ อย่างเพื่อให้แน่ใจว่า โรคน่าจะหาย เช่น การตรวจดูด้วยตา ใช้แท่งสำลีสัมผัสและเช็คดู ว่ามีน้ำเลือด น้ำหนองไหลออกมาอยู่หรือไม่ ดูสี ดูกลิ่นภายในราก การถ่ายเอ็กซเรย์ การสอบถามอาการผู้ป่วย เป็นต้น

Title: Re: รากฟันอักเสบ
ส่งโดย DaNO on 04/26/11 เวลา 15:04:30
ขอบคุณค่ะ เกรงใจคุณหมอจริง ๆ ที่รบกวนสอบถามบ่อย ๆ เพราะสงสัยแต่ไม่รุ้จะไปปรึกษาใคร

ขอถามว่ากรณี ถ้าเราหยุดการรักษากับหมอคนเก่า   า
ก่   แล้วรักษากับหมอคนใหม่ เป็นคนละโรงพยาบาลจะดีหรือไม่ หมายถึงจบตรงขั้นตอนอุดรากฟันให้เรียบร้อยเสียก่อน  แล้วให้หมอคนใหม่ใส่เดือยให้ใหม่ แล้วทำครอบฟัน

การอุดรากฟันไว้หลาย ๆ เดือน แล้วค่อยไปใส่เดือย ทำครอบฟัน จะมีผลเสียต่อฟันซี่นั้นหรือไม่

มีคนไข้อื่น ที่ทำแบบนี้หรือไม่

D.

Title: Re: รากฟันอักเสบ
ส่งโดย หมอหนิง on 04/26/11 เวลา 16:46:03
- สามารถเปลี่ยนคุณหมอรักษารากฟัน กับคุณหมอทำเดือยฟัน+ครอบฟันได้ ซึ่งเป็นสิทธิ์ของคนไข้อยู่แล้ว อีกทั้งคุณหมอรักษารากฟันบางท่าน ก็รักษารากฟันอย่างเดียว ไม่รับทำเดือยฟัน+ครอบฟัน การรักษากับสถานที่เดิม มีข้อดีคือ สามารถติดต่อประสานงานง่าย หากมีเรื่องต้องแก้ไขก็ติดต่อง่ายกว่า ฉะนั้นหากคนไข้จะไปรักษากับที่ใหม่ ก็ควรเอารายละเอียดการรักษาเดิมติดตัวไปด้วย รวมทั้งฟิล์มเอ็กซเรย์สุดท้าย เพื่อให้คุณหมอท่านใหม่ เขาประเมินดูผลการรักษารากฟัน ว่าพร้อมสำหรับการทำเดือยฟัน+ครอบฟันหรือยัง
- ระยะเวลาหลังการ อุดรากฟันเรียบร้อยแล้ว ก่อนการทำเดือยฟัน+ครอบฟัน ไม่มีกำหนดเวลาแน่นอน อีกทั้งมีหลายทฤษฎีว่าด้วยเรื่องความสำเร็จ ทฤษฎีแรก กล่าวว่า ถ้ารักษารากฟันเสร็จแล้ว หากฟันไม่มีอาการ ก็สามารถทำเดือยฟัน+ครอบฟัน ได้เลย ประมาณว่า ทำให้เสร็จทั้งกระบวนการ ยิ่งไวยิ่งดี ป้องกันการติดเชื้อย้อนจากด้านตัวฟันซ้ำลงไป หากตรงตัวฟันเป็นแค่อุดฟันชั่วคราว

ทฤษฎีที่ 2 กล่าวว่า ควรรอให้มั่นใจแน่ๆ ติดตามผลการรักษาเป็นระยะๆ 1 เดือน 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี ก็รอได้ เพื่อดูว่าผลการรักษารากฟันนั้นดีจริงๆ แน่ๆ จึงค่อยทำเดือยฟัน+ครอบฟัน

ฉะนั้น ถ้าตอบคำถามของคนไข้ ก็สามารถตอบได้ว่า จะรอก็ได้ ไม่เสียหาย เพื่อสังเกตอาการ แต่ถ้าจะทำเลยหากคนไข้ไม่มีอาการผิดปกติของรากฟันแล้ว ก็ทำได้

- เรื่องคนไข้คนอื่น .. หมอคงไปตอบแทนใครไม่ได้ แต่การเปลี่ยนหมอ ก็เป็นเรื่องธรรมดา อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นค่ะ



ThaiClinic.Com . All Rights Reserved.