|
||
|
Title: ถอนฟันกราม ส่งโดย kanist on 01/06/11 เวลา 22:34:23 ฟันกรามบนซ้ายซี่ในสุด ผุจนหมดถึงเหงือก ไม่ปวดฟัน แต่เหงือกตรงฟันซี่นี้บวม ถอนได้หรือเปล่าคะ หมอนัดพรุ่งนี้ จะได้ระงับการถอน |
||
|
Title: Re: ถอนฟันกราม ส่งโดย หมอหนิง on 01/07/11 เวลา 08:57:19 ต้องดูตามสภาพ และความตั้งใจของคนไข้ด้วย บางทีเหงือกบวมนิดหน่อยก็พอถอนได้ (ถ้าคนไข้ต้องการ) แต่ถ้าเหงือกมีอาการอักเสบบวมอยู่ ยาชาอาจออกฤทธิ์ได้น้อยลงค่ะ |
||
|
Title: Re: ถอนฟันกราม ส่งโดย kanist on 01/07/11 เวลา 19:40:37 ไปถอนฟันมาเรียบร้อยแล้วค่ะ แต่หมอไม่ให้ยาอะไรมาเลย นอกจากผ้าก๊อต 2 แพ็ก ถ้ายาชาหมดฤทธิ์แล้วต้องกินไอบูโพรเฟน 400 หรือไทลินอลคะ แล้วกินกี่เม็ดค่ะ แล้วผ้าก๊อตต้องกัดไว้นานแค่ไหนคะ คุณหมอบอกว่าทอลซิลโตข้างนึง หมายว่าอะไรคะ |
||
|
Title: Re: ถอนฟันกราม ส่งโดย หมอหนิง on 01/07/11 เวลา 20:18:39 ข้อปฏิบัติหลังการถอนฟัน 1. หลังการถอนฟัน กัดผ้าให้แน่นพอสมควร 1 ชั่วโมง แล้วคายผ้าทิ้ง หากเลือดไหลไม่หยุดให้ทำใหม่อีก 1ชั่วโมง 2. ถ้าเลือดไหลไม่หยุด ควรใช้น้ำแข็งประคบ นอกปากบริเวณที่ถอนฟัน 3. 3. ห้ามบ้วนน้ำหรือน้ำยาใดๆ ในวันแรก วันต่อไปให้ใช้น้ำเกลือ อุ่นๆ บ้วนเบา ๆ หลังรับประทานอาหาร 4. เวลาแปรงฟัน ระวังไม่ให้โดนแผลที่ถอน 5. ถ้าปวดฟันให้รับประทานยาแก้ปวด ครั้งละ 1-2 เม็ด ทุก 4 ชั่วโมง 6. ห้ามดูดแผลหรือเอาสิ่งใด ๆ มาแคะบริเวณแผล 7. ห้ามดื่มสุราหรือรับประทานอาหารรสจัด 8. ถ้ามีอาการผิดปกติควรกลับมาให้ทันตแพทย์ตรวจ 9. ห้ามออกกำลังกายเกินควร 10. แผลที่มีการเย็บ ให้กลับมาตัดไหมภายใน 5-7 วัน ข้อห้ามที่อาจมีผลทำให้เลือดไหลไม่หยุด 1. ห้ามดูด หรือเอาวัสดุใด ๆ เขี่ยแผล 2. ห้ามบ้วนน้ำลายภายหลังการผ่าตัดหรือถอนฟันภายใน 1-2 ชั่วโมง 3. ห้ามกินหมาก ห้ามสูบบุหรี่ และดื่มสุราภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง 4. ห้ามออกกำลังกายภายใน 24 ชั่วโมง - เรื่องยา สามารถทานยาไอบรูโพเฟ่น 400 ก็ได้ (แต่ยานี้แรง ควรทานหลังอาหาร เพราะอาจมีฤทธิ์กัดกระเพาะ การทาน ให้ทาน 1 เม็ด หลังอาหาร 3 เวลา หรือเมื่อปวด ก็พอ ไม่ปวดไม่ต้องทาน) / ฉะนั้นกรณีทั่วไป แนะนำให้ทานยาไทลินอล ก็พอ การทาน ให้ทาน 1 เม็ด ทุก 4-6 ชั่วโมง ไม่ปวดไม่ต้องทาน ค่ะ - เรื่องผ้าก๊อซ ควรกัดผ้าก๊อซ นาน 1-2 ชั่วโมง หรือจนกว่าเลือดจะหยุด คนไข้ไม่ควรบ้วนน้ำลาย ข้อปฏิบัติอื่นๆ ตามที่แนะนำไว้ข้างต้น - ต่อมทอนซิลโต อาจหมายถึง คนไข้มีอาการติดเชื้อ ประมาณว่า อ่อนแอ เพราะต่อมทอนซิลคือด่านแรกที่ไว้ดักจับเชื้อโรคในช่องปาก คนที่มีฟันผุมากๆ (ดังเช่นคุณ) จึงมักพบอาการต่อมทอนซิลโตได้ง่าย คนไข้มักเจ็บคอ หรือไม่สบายบ่อยได้ ในช่วงแรก แต่เมื่อถอนฟันซี่นี้ไปแล้ว อาการคนไข้น่าจะดีขึ้น แต่ควรรักษาความสะอาดช่องปากให้ดี นะคะ |
||
|
Title: Re: ถอนฟันกราม ส่งโดย kanist on 01/07/11 เวลา 20:43:59 ขอบคุณมากๆ ค่ะหมอหนิง เมื่อกี้ทานอาหาร บ้วนปากไป 2 ที ตอนนี้ ถอนไป 4 ชั่วโมงแล้วเลือดยังไม่หยุดเลย จะปฏิบัติตามที่หมอหนิงแนะนำค่ะ ขอบคุณมากๆ นะคะ |
||
|
Title: Re: ถอนฟันกราม ส่งโดย kanist on 01/07/11 เวลา 21:37:44 5 ชั่วโมงแล้วเลือดยังไม่หยุด ทำไงดีคะ |
||
|
Title: Re: ถอนฟันกราม ส่งโดย หมอหนิง on 01/07/11 เวลา 22:25:25 ปกติถ้าคนไข้ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบเลือด ถอนฟันไม่ยากผิดปกติ ปัญหาเลือดหยุดช้า มักเกิดจากการปฏิบัติตนที่ไม่ดีพอ ความวิตกกังวลจึงเปลี่ยนผ้าก๊อซ เอาออกมาดูเช็คบ่อยๆ ซึ่งไม่ควรกระทำคนไข้ควรกัดผ้าก๊อซ แน่นๆ นิ่งๆ ไม่ควรเปลี่ยนผ้าก๊อซบ่อย ไม่พูดไม่คุย ไม่ขยับปากบ่อย การเปลี่ยนผ้าก๊อซจะยิ่งดึงเลือดใหม่ๆ ออกมาแทนที่เลือดจะตกสะเก็ดปิดแผล เมื่อเวลาผ่านไป 1-2 ชั่วโมง (หลังจากปฏิบัติตัวถูกต้องแล้ว) บางคนเลือดจะหยุดดี หรือไหลซึมน้อยๆ บางคนอาจแบบว่าแห้งเลย แต่บางคนจะซึมๆ ก็ไม่ต้องตกใจ ให้กัดผ้าก๊อซต่อไป เลือดจะไหลน้อยลง หรือบางกรณีคนไข้ยังรู้สึกมีรสเลือดในปาก ก็ไม่ต้องตกใจ มันเป็นธรรมดา อยากดูดเลียแผล หรือวิตกกังวลมาก เลือดมักจะหยุดได้ดี เมื่อเวลาผ่านไปมากขึ้น หมอไม่อาจทราบได้ว่าลักษณะของเลือดที่ไหลเป็นอย่างไร โจ๊กๆๆๆ พลั่กๆๆๆ ออกมาเลย หรือซึมๆ แต่ไม่หยุดเด็ดขาด ถ้าโจ๊กๆ หลั่กๆๆ เลย อย่างนี้ควรรีบกลับไปหาคุณหมอ (ป่านนี้คงปิดร้านไปแล้ว ก็อาจไปหาคุณหมอห้องฉุกเฉินตามโรงพยาบาล) แต่โดยส่วนมากแล้ว ถ้าเลือดไหลซึมๆ ก็ลองปฏิบัติตามที่หมอแนะนำไว้ข้างต้นดูนะคะ |
||
|
Title: Re: ถอนฟันกราม ส่งโดย kanist on 01/07/11 เวลา 22:45:53 เลือดไหลแบบซึมๆ เหมือนตอนเพิ่งเปลี่ยนผ้าก๊อตครั้งแรกค่ะ ที่ผ่านมากัดผ้าก๊อตแบบพอดีๆ ไม่ได้กัดแน่น เดี๋ยวจะลองกัดแน่นๆ ดูค่ะ (กัดแล้วนอนไปเลยทั้งคืนใช่มั๊ยคะ) ถ้าพรุ่งนี้เช้ายังไม่หยุด ต้องกลับไปโรงพยาบาลใช่มั้ยคะ ขอบคุณค่ะ |
||
|
Title: Re: ถอนฟันกราม ส่งโดย หมอหนิง on 01/08/11 เวลา 21:02:41 ป่านนี้อาการคงดีขึ้นแล้วนะคะ ;D |
||
|
ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. |