หน้าแรกเว็บบอร์ด หน้าแรกเว็บบอร์ด
   ห้องถามตอบสุขภาพ
   ทันตกรรม
   Post reply ( Re: ขอสอบถามความเห็นคุณหมอครับ )
ขอเชิญเพื่อนแพทย์พูดคุย แสดงความคิดเห็นครับ
หัวข้อ:
ใส่ชื่อ:
Email:
Add YABBC tags:
Add Smileys: <more...>
ข้อความ:

Disable Smilies




Topic Summary
จากคุณ: mansa538624 โพสเมื่อวันที่: 12/05/11 เวลา 02:19:55
ผมเคยอุกฟันมาแล้วเมื่อประมาณ15เดือนที่แล้วพอเมื่อ3วันก่อนมีเศษวัสดุที่อุ ดมาแตกออกมาไปเป็นสีเงินๆ ผมก็เริ่มเคี้ยวอาหารแล้วเหมือนฟันมันดูดกัน แล้วเสียวนิดหน่อย พอวันที่2อาการเสียวเริ่มมากขึ้นถึงปวดแต่ไม่ปวดเท่ากับที่เคยปวดก่อนหน้าไป อุดฟัน มันปวดแบบเจ็บๆคันๆตามซอกฟันพอเคี้ยวอาหารก็จะสะดุ้งขึ้นมาเลย ผมเลยไปหาหมอฟันที่ใกล้บ้าน (ซึ่งไม่ใช่ที่เคยอุดมานะครับ) เขาบอกว่าสภาพการอุดฟันยังดีอยู่ แต่ที่เจ็บน่าจะเกิดจากการอุดฟันไปที่ซอกฟันแล้วพอวัสดุอุดฟันแตกออกมา เศษที่ยังเหลือก็ไปกดเหงือกให้อักเสบ (ผมได้ยินเขาคุยกันว่า คลินิคที่ผมเคยทำมาไม่ได้ใส่แมทริกซ์ 1000% เลยทำให้เขารื้อของเก่ายาก เขาบอกว่าใส่อัดเข้าไปเยอะมาก หมอเขาก็รื้อและอุดให้ใหม่โดยไม่ใช่วัสดุสีเงิน แต่เป็นสีขาวเหมือนกาวแทน และก็ไม่ได้ช่องซอกฟัน ปล่อยว่างไว้
 
ตอนนี้ผมยังมีอาการเจ็บอยู่นิดหน่อยแต่เบากว่าก่อนไปทำ ผมไม่ทราบว่าอาการเจ็บนี้มาจากฟันเองหรือจากที่เหงือกอักเสบกันแน่ จึงอยากให้หมอช่วยแสดงความคิดเห็นเคสของผมหน่อย ซึ่งหมอคลินิคใกล้บ้านนี้ เข้าบอกว่าเคสของผมนี่  
ซุปเปอร์โอเวอร์แฮงค์เลย ซึ่งผมจะมีคำถามถามคุณหมอว่า
1.จำเป็นต้องอุดซอกฟันหรือไม่ แต่ซอกฟันของผมก็ใหญ่จนไม้จิ้มฟันเข้าได้สบายอยู่นะครับ
2.เป็นเพราะวัสดุอุดฟันสีขาวที่ผมอุดมารึเปล่า เลยทำให้ยังเจ็บอยู่นิดหน่อย
3.จากที่ผมบอกมาวัสดุอุดฟันสามารถไปกดเหงือให้อักเสบได้ใช่หรือไม่ครับ
4.แล้วอาการเหงือกอักเสบใช้เวลารักษาประมาณกี่วัน กินยาอะไรช่วยได้หรือไม่
5.ถ้าเหงือกหายอักเสบแล้วแต่ยังเคี้ยวข้าวไม่ได้ผมควรกลับไปคลินิคแรกที่ใช้ วัสดุอุดสีเงินมาหรือไม่ ซึ่งคลินิคนั้นที่อุดมาสีเงิน650 แต่คลินิคใกล้บ้านสีขาว700
 
เอาแค่นี้ก่อนครับเด๋วค่อยรู้ดูอาการไปก่อน
ขอบพระคุณคุณหมอมากครับที่กรุณาตอบคำถามของผม
จากคุณ: หมอหนิง โพสเมื่อวันที่: 12/05/11 เวลา 08:25:21
1. ต้องดูตามขนาดความห่าง เพื่อให้ได้รูปร่างที่เหมาะสมไม่ผิดปกติเกินไป โดยปกติ ควรจะทำให้เกิดฟันสัมผัสกัน(เหมือนซี่อื่นๆ) แต่ไม่ใช่อุดตรงซอกฟัน (ที่เคยเป็นที่อยู่ของเหงือก) แต่เหงือกร่น ให้มันเต็มรู
1.1 หมอจะอุดตามรูปร่างของฟัน ส่วนตรงที่เป็นซอกฟัน ไม่ควรไปอุดมัน แต่คนไข้ควรมีวิธีทำความสะอาดซอกฟัน เช่น ใช้ไหมขัดฟัน หรือใช้แปรงซอกฟัน (ลักษณะจะคล้ายแปรงล้างขวด ขนาดเล็ก เอาไว้ทำความสะอาดต้องซอกฟัน เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า proxa brush ลองไปถามตามร้านขายยาขนาดใหญ่ หรือคลินิกหมอฟันดูนะคะ) แปรงและไหมขัดฟันจะช่วยทำความสะอาดฟัน และป้องกันโรคฟันผุซ้ำเติม และป้องกันโรคเหงือกอักเสบตรงซอกนั้นค่ะ
1.2 ไม่ควรใช้ไม้จิ้มฟันในการแคะฟัน เพราะจะยิ่งทำให้เหงือกร่น ช่องซอกฟันก็กว้างขึ้นด้วย และเพราะองศาการแคะฟันไม่ดี ทำให้ไม้จิ้มฟันไปจิ้มโดนเหงือก และกลายเป็นอาการเจ็บเหงือกในที่สุดด้วย
2. หมอตอบไม่ได้ ถ้าอุดฟันได้ดี ก็ไม่เกี่ยวกับวัสดุอุดฟัน เนื่องจากฟันติดกับเหงือก บางทีอาการเจ็บเหงือกกับเจ็บฟัน ก็สับสนกันได้ ส่วนใหญ่คนที่มีปัญหาเหงือกร่น มักจะมีปัญหาปวดมาจากเหงือกตรงนั้นที่ถูกเศษอาหาร มากดดัน
3. ได้ค่ะ
4. เหงือกอักเสบ ถ้าเป็นน้อยๆ แปรงฟันดีๆ ทำความสะอาดดีๆ 1-2 วันก็หายได้ แต่ถ้าเหงือกอักเสบมาก อาจต้องให้หมอช่วยขูดรักษาเหงือก ปกติเนื้อเยื่อในช่องปากใช้เวลาประมาณ 7 วันในการหายดี
4.1 เรื่องยาปกติแล้วไม่ต้องใช้ คนไข้ควรเน้นการดูแลรักษาความสะอาดช่องปากให้ดี ด้วยการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟัน (และอุปกรณ์อื่น) การบ้วนน้ำเกลือ ผสมง่ายๆ โดยเกลือ 1 ช้อนชาต่อน้ำ 1 แก้ว อมบ้วนปาก ก็จะช่วยเสริมได้เล็กน้อยค่ะ
5. อาจดูอาการก่อนก็ได้ แต่หากอาการไม่ดีขึ้น ค่อยไปเปลี่ยนวัสดุแบบเก่า หมอยังไม่สามารถตอบได้ตรงนี้ ต้องดูเป็นรายๆ ไปค่ะ


  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by