แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print

 หัวข้อ 1598: ฟันหน้าเปลี่ยนสี  (จำนวนคนอ่าน 13416 ครั้ง)
« เมื่อ: 05/01/12 เวลา 10:20:16 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ถ้าหากว่าเรารักษารากฟันในฟันหน้า ซึ่งเกิดจากการกระแทก ไม่ใช่การผุ ซึ่งเราจะเหลือเนื้อฟันมากพอที่จะอุดได้ โดยไม่ต้องทำการครอบ แต่ผมก็ยังเกิดความลังเลว่า ถ้าสีฟันเราเปลี่ยนเป็นสีคล้ำขึ้น ถ้าเราไม่ทำครอบฟัน แต่ใช้วิธีอื่นเช่น การทำวีเนียร์ หรือ การฟอกสีฟันเฉพาะซี่ ฟันของเราจะแข็งแรงพอไหม หรือจะใช้วิธีการครอบและใส่เดือย แต่ก็จะทำให้เราสูญเสียเนื้อฟันไปมากอีก ถึงแม้จะแข็งแรง แต่ก็มีโอกาสที่จะมีการรั่วซึมของวัสดุครอบ อยากให้คุณหมอแนะนำ ว่าวิธีไหน จึงเหมาะสมที่สุด สำหรับฟันหน้าที่รักษาราก แล้วต้องการปิดบังสีที่คล้ำลงครับ
ส่งโดย: pppppppppppp
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 16  
   
180.183.49.99 fwd for 10.0.0.*


« ความเห็นที่ #1 เมื่อ: 05/01/12 เวลา 10:48:25 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ท่าทางคนไข้จะทราบข้อมูลมาพอสมควรแล้ว เหลือกแต่เพียงการตัดสินใจเท่านั้นล่ะมั้งคะ  Smiley  
 
คือ แต่ละวิธีก็มีข้อดีข้อเสียค่ะ ไม่มีอะไรดี 100% หรือเสีย 100%
เอาเป็นว่า มีเกณฑ์ดังนี้
1. ถ้าเนื้อฟันยังเหลือเยอะ แนะนำว่า ควรอุดฟันไปก่อน คนที่จะบอกว่าเนื้อฟันเหลือเยอะหรือไม่เยอะ คือคุณหมอนะคะ อย่าคิดเองว่าเหลือเยอะ เพราะอาจเข้าใจผิดได้
2. ถ้าเนื้อฟันเหลือเยอะ แต่ฟันเริ่มเปลี่ยนสี ไม่สวย ทำได้โดย  
2.1 ฟอกสีฟัน ซึ่งอาจได้ผลหรือไม่ได้ผล  
2.2 ถ้าการฟอกสีฟัน ไม่ได้ผล รักษาด้วยการทำวีเนียร์หรือเคลือบฟันเทียม หมอจะกรอเฉพาะผิวฟันด้านหน้า แล้วทำเคลือบฟันเทียมปิดลงไป ก็จะช่วยเรื่องสีฟันเปลี่ยนได้ เคลือบฟันเทียมนี้ สามารถหลุดได้ ตามอายุของกาว และการใช้งาน หากไปกัดอะไรบ่อยๆ อาจจะหลุดได้เป็นธรรมดา เรื่องความแข็งแรงของตัวฟันยังดีเพราะเนื้อฟันยังเหลือเยอะ
3. ถ้าเนื้อฟันเหลือน้อย หรือทำเคลือบฟันเทียมแล้วหลุดบ่อย ฟันสบกันไม่ดี มีการสบฟันกระแทกฟันที่รักษารากฟันนี้อยู่เสมอ ฟันควรได้รับการปกป้องสูง ก็ควรรักษาด้วยการทำเดือยฟัน+ครอบฟัน การรักษาวิธีนี้ สูญเสียเนื้อฟันมาก แต่ก็ช่วยเสริมความแข็งแรงให้ฟันได้มากเ่ช่นกัน ความเสื่อมของครอบฟันพอๆ กับวีเนียร์หรือเคลือบฟันเทียม เพราะขึ้นกับการใช้งานและอายุกาวที่ใช้ยึด การรั่วซึมของวัสดุเกิดขึ้นได้ตามอายุการใช้งาน การทำครอบฟัน หรือวีเนียร์ เป็นของทำเทียม ฉะนั้นต้องดูแลใช้งานดีๆ  
 
สุดท้าย ไม่ว่าจะรักษาด้วยวิธีไหน ฟันที่ผ่านการรักษารากฟันมาแล้ว ก็มีอายุการใช้งานของมัน ถ้าดูแลดีๆ ก็อาจอยู่กับเราได้นานมาก บางคนดูแลไม่ดี อาจอยู่ได้ไม่นาน ไม่กี่ปี แม้ว่าเราจะยื้อยังไงก็ตาม ฟันก็อาจไม่อยู่กับเราแล้ว อย่างไรก็ดี ฟันหน้ามักมีอายุการใช้งานนานกว่าฟันกราม ค่ะ
 
รายละเอียด ก็ประมาณนี้ ฉะนั้นคนไข้จะเลือกรักษาวิธีไหน ก็สามารถเลือกรักษาได้เลย ตามงบประมาณ เนื้อฟันที่เหลือ และการตัดสินใจของคนไข้เป็นสำคัญค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: 05/01/12 เวลา 10:49:33 by หมอหนิง »
ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 9097  
   
171.97.38.*


« ความเห็นที่ #2 เมื่อ: 05/01/12 เวลา 23:24:26 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ขอบคุณคุณหมอมากครับที่แนะนำ ผมมีข้องสงสัยอีกข้อครับ เรื่องฟันที่รักษารากฟันแล้วจะอยู่กับเราไม่นานนี่หมายความว่ายังไงครับ คือฟันตายไม่มีเส้นประสาทมาเลี้ยงจะมีความเปราะตรงนี้ผมเข้าใจครับ แต่ว่าถ้าเราทำการครอบดีแล้ว และรักษาความสะอาดดีพอ ยิ่งฟันหน้าที่เราไม่ได้ใช้บดเคี้ยวมาก โอกาสฟันที่เรารักษาราก จะอยู่ได้นานเท่าฟันจริงที่ยังมีประสาทรับรู้อยู่ จะมีเวลาการใช้งานเท่าๆกันไหมครับ หรือว่าพอไม่มีประสาทฟันจะส่งผลกับกระดูกรอบๆรากฟันมันจะละลายเสื่อมง่ายกว่ าครับ แล้วถ้าเราดูแลดีๆฟันก็ยังจะหลุดออกมาเหรอครับ เพราะคุณหมอเคยบอกว่างานวิจัยของฝรั่งเคยบิกว่า ฟันที่รักษารากจะมีอายุการใช้งานประมาณ 10 ปี อย่างนี้เราก็ต้องเตรียมใจใส่ฟันปลอมไว้เลยใช่ไหมครับ ถ้าเรารักษารากฟันหลายๆซี่ จิตตกพอสมควรเลยนะครับ เข้าใจอยู่ว่าทุกอย่างมีเสื่อมมีสลายไป แต่คงต้องทำใจพอสมควรอะครับ....รบกวนคุณหมอช่วยตอบให้คลายสงสัยหน่อยครับ
ส่งโดย: pppppppppppp
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 16  
   
180.183.142.153 fwd for 10.0.0.*


« ความเห็นที่ #3 เมื่อ: 05/02/12 เวลา 06:23:12 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ฟันตาย ย่อมไม่เหมือนฟันเป็น มันมีความเสื่อมเป็นธรรมดา สามารถเกิดปัญหาอะไรได้มากมาย น้อยหรือมาก มีปัจจัยหลายอย่าง การรักษารากฟันเป็นเพียงการคงสภาพให้ฟันซี่นั้นเกาะอยู่ในกระดูกโดยมีเหงือก ยึดอยู่ อายุการใช้งานจึงเหมือนนับเวลาถอยหลังรอวันสูญเสีย แต่ไม่รู้วันไหนเท่านั้น ซึ่งอาจจะอยู่กันไปเป็นสิบๆ ปีเลย จนเราเสียชีวิตก็ได้ หรืออาจอายุสั้น เพราะโรคใต้รากฟันเกิดกำเริบแล้วไม่หาย ก็เกิดขึ้นได้ ไม่สามารถทำนายได้เป๊ะๆ  
 
หลังรักษารากฟันกระดูกรอบๆ รากฟันควรจะกลับมาเป็นปกติ (โรคหาย) แต่บางครั้งมันก็ไม่หาย ทำให้ฟันโยก หรือเป็นหนองซ้ำๆ บางครั้งรากฟันเกิดการละลายตัวเองกุดสั้นลง ทำให้สูญเสียฟันได้ บางครั้งฟันก็หักใน การทำครอบฟันฟัน ปกป้องตัวฟันได้ แต่ไม่สามารถปกป้องรากฟันได้ บางทีฟันก็หักที่คอฟัน ไม่สามารถคาดการณ์ได้เลย
 
เรื่องการเตรียมใจเรื่องใส่ฟันปลอม ก็คิดไว้ก็ดี แต่ถ้าเราดูแลดีๆ ฟันที่รักษารากฟันแล้วก็สามารถอยู่ไปได้นาน เพียงแต่ว่าเราไม่สามารถบอกได้ว่านานแค่ไหน อาจจะ 40-50 ปีแล้ว ฟันจึงเสีย หรือ 6 เดือนฟันเสียเลย อันนี้ก็บอกไม่ไ้ด้ เพราะมีปัจจัยหลายอย่าง เช่น ขนาดโรคใต้รากฟันที่เป็น รูปร่างความยากของรากฟัน ฝีมือของหมอ การดูแลรักษา การใช้งาน การสบฟัน ที่สำคัญคือการตอบสนองของร่างกายคนไข้ บางคนรักษายังไงก็ไม่หาย เช่นนี้เป็นต้นค่ะ
ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 9097  
   
58.9.141.*


« ความเห็นที่ #4 เมื่อ: 05/02/12 เวลา 17:42:05 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ขอบคุณมากครับ
ส่งโดย: pppppppppppp
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 16  
   
180.183.126.139 fwd for 10.0.0.*


Page(s) : 1 


แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print



Reply this Topic reserved for registed member only. Register



  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by