แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print

 หัวข้อ 1546: ผ่าฟันคุด+ตัดไหมแล้ว..เลือดยังออกค่ะ  (จำนวนคนอ่าน 19733 ครั้ง)
« เมื่อ: 03/30/12 เวลา 00:47:51 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

สวัสดีค่ะคุณหมอ
 
ประวัติการรักษาของฉันเป็นดังนี้ค่ะ
   ตอนอายุ 10-12 ปี ฉันเริ่มจัดฟันเพราะฟันล่างยื่น
แต่หลังจัดฟันเสร็จก็ไม่เคยใส่รีเทนเนอร์อีกเลยค่ะ เพราะมันทรมาน
   ตอนอายุ 20 ปี  
เคยผ่าฟันคุดข้างขวา ทั้งบนและล่างพร้อมกัน เรียบร้อยดี
ส่วนข้างซ้าย เอ็กซ์เรย์แล้วพบว่าฟันคุดทับซ้อนอยู่กับเส้นประสาท
คุณหมอจึงแนะนำให้รอฟันขึ้นมาก่อนจึงเอาออก
 
เวลาผ่านไป ก็ลืมเรื่องฟันคุดไปเลยค่ะ
 
   ปัจจุบัน อายุ 28 ปี
ไปตรวจสุขภาพฟันตามปกติค่ะ
คุณหมอตรวจพบฟันคุดด้านซ้ายล่างขณะที่จะขูดหินปูน  
ฉันจึงได้ทราบว่าฟันคุดโผล่มาบางส่วนแล้ว
เวลาผ่านไป 1 สัปดาห์ รู้สึกปวดฟันเล็กน้อยเป็นระยะ
ทำให้รู้สึกกังวลเรื่องฟันคุด
   ฉันจึงตัดสินใจผ่าออกค่ะ  
 
19 มีนา  
   คุณหมอเอ็กเรย์ดูแล้ว แนะนำว่าฟันล่าง ยังไงก็ต้องเอาออก
เพราะฟันคุดเอียง เกิดเป็นซอกให้เศษอาหารเข้าไปติดง่าย
เสี่ยงต่อการเกิดฟันผุ
   ส่วนฟันบน จะเอาออกหรือไม่ก็ได้ คุณหมออธิบายว่า  
ฉันอายุเยอะแล้ว ฟันไม่น่าจะโผล่ออกมาแล้ว แต่มันก็อยู่ไม่ลึก
เอาออกก็ไม่น่าจะยากอะไร ถ้าเก็บไว้ ควรมาเอ็กเรย์ดูทุกปี
เพราะมันอาจเกิดถุงน้ำ นำไปสู่การเกิดเนื้องอกได้
 
   เมื่อได้ยินดังนั้น ฉันก็ตัดสินใจเอาออกทั้งฟันบนและล่าง
เพื่อความสบายใจว่าอนาคตไม่ต้องมาทำอะไรกับฟันแล้ว
 
   เนื่องจากฉันรู้สึกกลัวมากๆ พอฉีดยาชาเสร็จ จึงมีอาการใจสั่น
หน้ามืดเป็นลม คุณหมอให้กำ-แบมือหลายๆครั้งก็เริ่มดีขึ้น
 
   เมื่อพร้อม คุณหมอก็ผ่าเปิดเหงือกฟันบน พบว่ามีกระดูกบางๆหุ้มอยู่
ทำให้การเอาออกค่อนข้างยาก คุณหมอพยายามตัดฟันเป็นสองส่วน
แล้วงัดออกมาจนสำเร็จ ทำให้มุมปากฉีกเป็นแผลยาว 0.5 ซม
   จากนั้นคุณหมอก็ผ่าฟันล่างต่อ ซึ่งมีความยากเช่นกัน
เนื่องจากฟันอยู่ในแนวราบ และมีการบิดหมุน  
จึงต้องตัดฟันออกเป็น 3ส่วน แล้วงัดออกมา  
จึงทำให้มุมปากฉีกเป็นแผลยาว 0.5ซมอีกทิศนึง  
   สรุป ปากฉีกเป็นรูป > ค่ะ
 
   คุณหมอให้ยาAmoxillin 20เม็ด และ bruofen สำหรับ 5 วัน
 
   ฉันกลับบ้าน ทานยาตามหมอสั่ง แต่ทานข้าวไม่ได้
เพราะเจ็บปากมาก จึงทานแต่น้ำแกงและน้ำเต้าหู้อยู่ 4 วัน
มีอาการปวดและบวมมาก จนนอนไม่หลับอยู่ 2 วันแรก
   เนื่องจากกลัวเลือดออก ฉันจึงไม่กล้าแปรงฟัน แต่ใช้วิธีบ้วนปาก
ด้วยน้ำเกลืออุ่นๆแทน แล้วประคบด้วยถุงน้ำร้อนลดการบวมได้ดี
   วันที่ 5 เริ่มทานข้าวบ้างน้ำแกงบ้าง แต่พยายามทานคำเล็กๆ
เคี้ยวเฉพาะด้านขวาเท่านั้น พอทานข้าวเสร็จ รู้สึกว่ามีเศษอาหารติด
แต่พยายามอมน้ำเกลือและบ้วนปากก็ไม่หาย และฉันก็ไม่กล้าแปรงฟัน
และยังอ้าปากไม่ค่อยได้ จึงไม่กล้าไปให้หมอดูอาการ
 
26 มีนา
   ครบกำหนด 7 วัน ฉันยังมีอาการปวดและบวมอยู่
คุณหมอตัดไหมและดูแผล บอกว่า  
- มีเศษอาหารเข้าไปติดบริเวณเหงือกด้านบน ทำให้เนื้อเน่า
คุณหมอจึงใช้สำลีเช็ดและล้างแผลให้
- เหงือกเปิด ทำให้เศษอาหารเข้าไปติดได้ง่าย อาจจะต้องเล็มออก
ถ้าผ่านไป 1 เดือนแล้ว เหงือยังไม่ยุบตัว
   คุณหมอสั่งน้ำยาฆ่าเชื้อให้ 1 ขวด บอกว่ากลับไปแล้ว
ให้ใช้สำลีชุบน้ำยา แล้วเช็ดบริเวณฟันซี่สุดท้าย  
โดยพยายามใช้นิ้วกดแล้วถูในทิศออกจากเหงือก
ให้ทำความสะอาดเช่นนี้วันละ 2 ครั้ง ร่วมกับการแปรงฟัน
 
   ฉันกลัวเลือดมาก ทุกครั้งที่เลือดออกจะหน้ามืด  
กลับมาทำเองที่บ้าน ก็มีเลือดออกทุกครั้งที่เอาสำลีพันก้านพลาสติก
ชุบน้ำยาแล้วเช็ดแผล โดยครั้งแรกๆจะมีเลือดสีเข้มๆ และกลิ่นเน่า
พอวันที่ 2-3 กลิ่นเน่าไม่มีแล้วค่ะ แต่เป็นเลือดสดแทน
 
   เนื่องจากหลังทานข้าวจะมีเศษอาหารไปติด ทำให้รู้สึกปวด
และรำคาญบริเวณแผล ฉันจึงใช้สำลีชุบน้ำยา ไปถูใกล้ๆแผล
เพื่อให้เศษอาหารหลุด ทำให้มีเลือดออกมาเต็มสำลี
ต้องบ้วนน้ำตาม 2-3ครั้ง  
 
29 มีนา
  วันนี้เป็นวันที่ 4 หลังตัดไหมแล้วค่ะ แต่ยังมีเลือดสดออกมาก
เมื่อเอาสำลีไปเช็คใกล้ๆแผล
 
คำถาม
1. จากอาการที่เล่ามา แผลของฉันดูแย่มากมั๊ยคะ
2. ต้องรักษาอีกนานเท่าไหร่ จึงจะหายสนิทคะ
3. โอกาสที่จะต้องมาเล็มเหงือก มีมากน้อยแค่ไหนคะ
4. สาเหตุที่ฉันต้องทรมานเช่นนี้เป็นเพราะคุณหมอมือหนักรึเปล่าคะ
เพราะตอนที่ผ่า ใช้เวลา 1 ชั่วโมงเต็ม
คุณหมอไม่หยุดพักเลย ดันทุรังเอาฟันออกให้ได้ จนปากช้ำไปหมด
ฉันเกร็งจนเหนื่อยตลอดการผ่าตัดค่ะ
5. ฉันควรปฏิบัติตัวอย่างไร เพื่อช่วยให้แผลหาเร็วขึ้นคะ
 
ขอบคุณที่กรุณาอ่านและตอบข้อสงสัยของฉันค่ะ
ส่งโดย: miimii
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 4  
   
58.64.49.*


« ความเห็นที่ #1 เมื่อ: 03/30/12 เวลา 00:51:04 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

เพิ่มเติมค่ะ
 
- ได้ยินจากคุณหมอว่า เนื่องจากเป็นเคสที่ผ่ายาก จึงมีการผ่าเปิดเหงือค่อนข้างกว้างลงมาถึงโคนลิ้นค่ะ
สาเหตุนี้ทำให้เหงือกเปิดได้ง่ายรึเปล่าคะ
แต่ฉันก็ไม่ทราบว่า เหงือตรงไหนที่เปิดค่ะ
ส่งโดย: miimii
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 4  
   
58.64.49.*


« ความเห็นที่ #2 เมื่อ: 03/30/12 เวลา 10:54:40 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

1. อาจจะแย่ แต่ก็เกิดขึ้นได้กรณีที่ฟันคุดยากๆ ทำใจให้สบาย ไม่ควรมองย้อนและทุกข์กับอดีต ควรทำปัจจุบันให้ดี บำรุงรักษาแผล ที่สำคัญคือหมั่นทำความสะอาดช่องปากตามที่หมอสั่ง การแปรงฟันเป็นสิ่งสำคัญมาก จะช่วยลดปริมาณเชื้อในช่องปาก ทำให้แผลหายไวขึ้น
2. แผลในช่องปากมีลำดับการหายของมัน 7 วันก็ระดับหนึ่ง (คงตัวพอสมควร) 2-4 สัปดาห์ก็อีกระดับหนึ่ง จะค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ ถ้าไม่มีการติดเชื้ออะไรเพิ่มเติม ฉะนั้นอย่างที่บอก การแปรงฟันและดูแลแผลเป็นสิ่งสำคัญ แผลถอนฟันจะหายดีเรียบเนียนเป็นปกติก็ต้องใช้เวลาเป็นเดือน ยิ่งเป็นผู้ใหญ่แล้ว อายุมากขึ้น แผลจะหายช้ากว่าตอนเป็นวัยรุ่น
3. โอกาสที่ต้องกลับไปตกแต่งแผล บอกไม่ได้หรอกค่ะ ต้องดูการหายของคนไข้แต่ละคนซึ่งไม่เหมือนกัน ปกติเหงือกและกระดูกจะมีการตกแต่งตนเองให้เรียบเนียน แบนลง แต่บางครั้งมีเหงือกส่วนเกินก็อาจต้องไปเล็มออก หรือบางคนมีสันกระดูกคมๆ น่ารำคาญ ก็อาจไปตกแต่งตัดออก
4. อันนี้หมอเองก็คงตอบไม่ได้ เพราะผลข้างเคียงที่เกิดจากการผ่าฟันคุด มีปัจจัยคร่าวๆ  3 อย่าง 1. ฟันถอนยากจริงๆ ฟันที่ขึ้นไม่ได้เลย จะถอนยาก ฟันที่นอนราบจะถอนยาก รากฟันคดเคี้ยว ต้องแบ่งฟันเป็นส่วนๆ จะถอนยาก ทั้งนี้ยังไม่รวมถึงว่า คนไข้อ้าปากได้แคบหรือกว้าง ลิ้นคนไข้ใหญ่หรือเปล่า บังทิศทางการมองเห็นหรือเปล่า กระดูกเหนียวหรือนิ่ม อายุคนไข้น้อยหรือเป็นผู้ใหญ่แล้ว เพราะจะหมายถึงฟันได้เติบโตเต็มซี่แล้ว กระดูกมีความหนาแน่นมาก ทำให้ถอนยาก ทุกสิ่งล้วนเป็นปัจจัยให้ฟันคุดซี่หนึ่งยากหรือง่าย 2. การตอบสนองของร่างกายคนไข้แต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนอึดมาก บางคนอึดน้อย บางคนนิดหน่อยก็อักเสบ บางคนทนมาก  3. ฝีมือหมอ อันนี้ปฏิเสธไม่ได้ ว่าฝีมือหมอก็มีส่วน แต่เห็นว่าสุดท้ายคุณหมอก็สามารถเอาฟันคุดออกมาได้หมด แสดงว่าท่านเก่งพอสมควร  
5. ปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหมอ ใช้ชีวิตไปตามปกติ ไม่ต้องเครียดมาก หมั่นแปรงฟันเช้า-เย็น เช็ดล้างแผลตามสมควร บ้วนปากหลังมื้ออาหาร ระวังเศษอาหารไปอัดในแผล จะติดเชื้อและทำให้แผลหายช้า กินยา ถ้ามีอาการปวด ยาฆ่าเชื้ออาจไม่จำเป็นแล้ว นอกจากคุณหมอพิจารณาว่าจำเป็น และก็สังเกตอาการไปเรื่อยๆ อาการควรดีขึ้นตามลำดับ แต่ต้องใช้เวลาหน่อย เราไม่สามารถเร่งปฏิกิริยาร่างกายได้ ร่างกายต้องค่อยๆ เยียวยารักษาตนเอง
 
- เรื่องเหงือกเปิด โดยธรรมชาติ แผลกว้างก็ย่อมปิดได้ช้ากว่า ยิ่งใกล้ลิ้นอย่างที่บอก ลิ้นมันดุกดิกตลอด ทำให้แผลขยับ อาจเป็นสาเหตุของเลือดออกง่ายได้ เหมือนคนไข้หลายรายที่ต้องมาผ่าตัดแผลใต้ลิ้น มักจะเลือดออกง่าย เพราะลิ้นมันจะขยับอยู่เสมอ แค่กลืนน้ำลายก็ขยับแล้ว
ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 9097  
   
110.168.177.*


« ความเห็นที่ #3 เมื่อ: 03/30/12 เวลา 11:28:26 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ขอบคุณคุณหมอหนิงค่ะ ที่ช่วยตอบทุกข้ออย่างละเอียด
 
ขอสอบถามเพิ่มเติมดังนี้ค่ะ
 
1. การเช็ดทำความสะอาดแผล เป็นการรบกวนแผลรึเปล่าคะ
เพราะทุกครั้งที่เช็ด จะทำให้เลือดออก
 
2. มีคำแนะนำเรื่องวิธีการเช็ดทำความสะอาดที่ถูกต้องมั๊ยคะ
จะได้ไม่รบกวนแผลมากนัก
 
3. ระหว่างการใช้สำลีก้อนใหญ่แปะเข้าไปถูๆ กับ
การใช้คอตต้อนบัด เข้าไปเช็ดแผล อย่างไหนดีกว่ากันคะ
 
ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
ส่งโดย: miimii
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 4  
   
58.64.49.*


« ความเห็นที่ #4 เมื่อ: 03/30/12 เวลา 12:54:49 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

1. ก็ควรกระทำอย่างละมุนละม่อม ไม่ทำบ่อยเกินไป เลือดอาจออกบ้างเล็กน้อย (ก็แผลยังไม่หายดี) แต่เลือดก็ควรหยุดได้เองในเวลาที่เหมาะสม ไม่ได้ไหลตลอดไป
2. ทำไปตามปกติ  
3. อันไหนก็ได้แล้วแต่สะดวก ถ้าแปรงฟันได้ ควรแปรงฟันด้วย ส่วนบริเวณใกล้ๆ แผลก็หลีกเลี่ยงที่จะแปรงโดน ควรบ้วนปากหลังมื้ออาหาร การเช็ดแผลหรือทายาที่แผล ถ้าแผลใกล้หายแล้ว ก็จำเป็นน้อยลง (ควรดูว่ามันสกปรกไหม มีเศษอาหารหรือคราบไปเกาะที่ตามฟันข้างเคียงหรือแผลไหม ถ้าไม่มี ก็ปล่อยได้บ้าง ไม่ถึงขนาดต้องทำทุกชั่วโมง อาจทำเช้า-เย็น อะไรอย่างนี้ค่ะ)
ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 9097  
   
110.168.177.*


« ความเห็นที่ #5 เมื่อ: 03/31/12 เวลา 00:11:47 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

คุณหมอคะ
 
วันนี้อาการดีขึ้นค่ะ  
แปรงฟันแล้วเลือดออกน้อยลง  
แต่รู้สึกปวดๆฟันฝั่งซ้าย เวลาเคี้ยวอาหารค่ะ
ฉันพยายามหลีกเลี่ยงการเคี้ยวด้านซ้ายแล้ว  
แต่มันก็รู้สึกไปด้วยอยู่ดี
เป็นเพราะแผลยังไม่หายใช่มั๊ยคะ
ส่งโดย: miimii
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 4  
   
58.64.49.*


« ความเห็นที่ #6 เมื่อ: 04/01/12 เวลา 13:00:35 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

น่าจะเป็นอย่างนั้นค่ะ
ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 9097  
   
125.25.108.*


Page(s) : 1 


แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print



Reply this Topic reserved for registed member only. Register



  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by