« เมื่อ: 03/30/12 เวลา 00:47:51 » |
|
สวัสดีค่ะคุณหมอ ประวัติการรักษาของฉันเป็นดังนี้ค่ะ ตอนอายุ 10-12 ปี ฉันเริ่มจัดฟันเพราะฟันล่างยื่น แต่หลังจัดฟันเสร็จก็ไม่เคยใส่รีเทนเนอร์อีกเลยค่ะ เพราะมันทรมาน ตอนอายุ 20 ปี เคยผ่าฟันคุดข้างขวา ทั้งบนและล่างพร้อมกัน เรียบร้อยดี ส่วนข้างซ้าย เอ็กซ์เรย์แล้วพบว่าฟันคุดทับซ้อนอยู่กับเส้นประสาท คุณหมอจึงแนะนำให้รอฟันขึ้นมาก่อนจึงเอาออก เวลาผ่านไป ก็ลืมเรื่องฟันคุดไปเลยค่ะ ปัจจุบัน อายุ 28 ปี ไปตรวจสุขภาพฟันตามปกติค่ะ คุณหมอตรวจพบฟันคุดด้านซ้ายล่างขณะที่จะขูดหินปูน ฉันจึงได้ทราบว่าฟันคุดโผล่มาบางส่วนแล้ว เวลาผ่านไป 1 สัปดาห์ รู้สึกปวดฟันเล็กน้อยเป็นระยะ ทำให้รู้สึกกังวลเรื่องฟันคุด ฉันจึงตัดสินใจผ่าออกค่ะ 19 มีนา คุณหมอเอ็กเรย์ดูแล้ว แนะนำว่าฟันล่าง ยังไงก็ต้องเอาออก เพราะฟันคุดเอียง เกิดเป็นซอกให้เศษอาหารเข้าไปติดง่าย เสี่ยงต่อการเกิดฟันผุ ส่วนฟันบน จะเอาออกหรือไม่ก็ได้ คุณหมออธิบายว่า ฉันอายุเยอะแล้ว ฟันไม่น่าจะโผล่ออกมาแล้ว แต่มันก็อยู่ไม่ลึก เอาออกก็ไม่น่าจะยากอะไร ถ้าเก็บไว้ ควรมาเอ็กเรย์ดูทุกปี เพราะมันอาจเกิดถุงน้ำ นำไปสู่การเกิดเนื้องอกได้ เมื่อได้ยินดังนั้น ฉันก็ตัดสินใจเอาออกทั้งฟันบนและล่าง เพื่อความสบายใจว่าอนาคตไม่ต้องมาทำอะไรกับฟันแล้ว เนื่องจากฉันรู้สึกกลัวมากๆ พอฉีดยาชาเสร็จ จึงมีอาการใจสั่น หน้ามืดเป็นลม คุณหมอให้กำ-แบมือหลายๆครั้งก็เริ่มดีขึ้น เมื่อพร้อม คุณหมอก็ผ่าเปิดเหงือกฟันบน พบว่ามีกระดูกบางๆหุ้มอยู่ ทำให้การเอาออกค่อนข้างยาก คุณหมอพยายามตัดฟันเป็นสองส่วน แล้วงัดออกมาจนสำเร็จ ทำให้มุมปากฉีกเป็นแผลยาว 0.5 ซม จากนั้นคุณหมอก็ผ่าฟันล่างต่อ ซึ่งมีความยากเช่นกัน เนื่องจากฟันอยู่ในแนวราบ และมีการบิดหมุน จึงต้องตัดฟันออกเป็น 3ส่วน แล้วงัดออกมา จึงทำให้มุมปากฉีกเป็นแผลยาว 0.5ซมอีกทิศนึง สรุป ปากฉีกเป็นรูป > ค่ะ คุณหมอให้ยาAmoxillin 20เม็ด และ bruofen สำหรับ 5 วัน ฉันกลับบ้าน ทานยาตามหมอสั่ง แต่ทานข้าวไม่ได้ เพราะเจ็บปากมาก จึงทานแต่น้ำแกงและน้ำเต้าหู้อยู่ 4 วัน มีอาการปวดและบวมมาก จนนอนไม่หลับอยู่ 2 วันแรก เนื่องจากกลัวเลือดออก ฉันจึงไม่กล้าแปรงฟัน แต่ใช้วิธีบ้วนปาก ด้วยน้ำเกลืออุ่นๆแทน แล้วประคบด้วยถุงน้ำร้อนลดการบวมได้ดี วันที่ 5 เริ่มทานข้าวบ้างน้ำแกงบ้าง แต่พยายามทานคำเล็กๆ เคี้ยวเฉพาะด้านขวาเท่านั้น พอทานข้าวเสร็จ รู้สึกว่ามีเศษอาหารติด แต่พยายามอมน้ำเกลือและบ้วนปากก็ไม่หาย และฉันก็ไม่กล้าแปรงฟัน และยังอ้าปากไม่ค่อยได้ จึงไม่กล้าไปให้หมอดูอาการ 26 มีนา ครบกำหนด 7 วัน ฉันยังมีอาการปวดและบวมอยู่ คุณหมอตัดไหมและดูแผล บอกว่า - มีเศษอาหารเข้าไปติดบริเวณเหงือกด้านบน ทำให้เนื้อเน่า คุณหมอจึงใช้สำลีเช็ดและล้างแผลให้ - เหงือกเปิด ทำให้เศษอาหารเข้าไปติดได้ง่าย อาจจะต้องเล็มออก ถ้าผ่านไป 1 เดือนแล้ว เหงือยังไม่ยุบตัว คุณหมอสั่งน้ำยาฆ่าเชื้อให้ 1 ขวด บอกว่ากลับไปแล้ว ให้ใช้สำลีชุบน้ำยา แล้วเช็ดบริเวณฟันซี่สุดท้าย โดยพยายามใช้นิ้วกดแล้วถูในทิศออกจากเหงือก ให้ทำความสะอาดเช่นนี้วันละ 2 ครั้ง ร่วมกับการแปรงฟัน ฉันกลัวเลือดมาก ทุกครั้งที่เลือดออกจะหน้ามืด กลับมาทำเองที่บ้าน ก็มีเลือดออกทุกครั้งที่เอาสำลีพันก้านพลาสติก ชุบน้ำยาแล้วเช็ดแผล โดยครั้งแรกๆจะมีเลือดสีเข้มๆ และกลิ่นเน่า พอวันที่ 2-3 กลิ่นเน่าไม่มีแล้วค่ะ แต่เป็นเลือดสดแทน เนื่องจากหลังทานข้าวจะมีเศษอาหารไปติด ทำให้รู้สึกปวด และรำคาญบริเวณแผล ฉันจึงใช้สำลีชุบน้ำยา ไปถูใกล้ๆแผล เพื่อให้เศษอาหารหลุด ทำให้มีเลือดออกมาเต็มสำลี ต้องบ้วนน้ำตาม 2-3ครั้ง 29 มีนา วันนี้เป็นวันที่ 4 หลังตัดไหมแล้วค่ะ แต่ยังมีเลือดสดออกมาก เมื่อเอาสำลีไปเช็คใกล้ๆแผล คำถาม 1. จากอาการที่เล่ามา แผลของฉันดูแย่มากมั๊ยคะ 2. ต้องรักษาอีกนานเท่าไหร่ จึงจะหายสนิทคะ 3. โอกาสที่จะต้องมาเล็มเหงือก มีมากน้อยแค่ไหนคะ 4. สาเหตุที่ฉันต้องทรมานเช่นนี้เป็นเพราะคุณหมอมือหนักรึเปล่าคะ เพราะตอนที่ผ่า ใช้เวลา 1 ชั่วโมงเต็ม คุณหมอไม่หยุดพักเลย ดันทุรังเอาฟันออกให้ได้ จนปากช้ำไปหมด ฉันเกร็งจนเหนื่อยตลอดการผ่าตัดค่ะ 5. ฉันควรปฏิบัติตัวอย่างไร เพื่อช่วยให้แผลหาเร็วขึ้นคะ ขอบคุณที่กรุณาอ่านและตอบข้อสงสัยของฉันค่ะ
|
|