แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print

 หัวข้อ 1507: เสียวฟัน หินปูน  (จำนวนคนอ่าน 4046 ครั้ง)
« เมื่อ: 02/25/12 เวลา 07:58:30 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

สวัสดีครับคุณหมอหนิง ผมมีฟันที่อุดไว้นานแล้ว ที่นี้ทานอะไรเข้าไปก็เสียว ทั้งของร้อน ของเย็น โดยเฉพาะน้ำเย็น ทีนี้ ไปตรวจ ตอนแรก ไปx-ray ฟัน หมอบอกว่าผุ (แต่หมอคนนี้ดูไม่ค่อยเก่ง พอดูเสร็จก็บอกว่าให้หมออีกคนมาดูดีกว่า) สักพักหมอที่ทำฟันผมโดยตรงก็เข้ามาดูบอกว่าฟันไม่ได้ผุ วัสดุอดฟันยังสมบูรณ์ปกติดี ครับ แต่ที่ทานอะไรแล้วเสียว ตรงฟันที่อุด เป็นเพราะฟินปูนเหลืองๆไปเกาะเยอะมาก จึงทำให้เหงือกขยาย พอกินของเหลวร้อน เย็น ไหลผ่าน จึงทำให้เกิดอาการเสียวฟันขึ้นมา ตรงนี้ที่คุณหมอกล่าวมานั้นจริงเท็จยังไงครับหมอ ผมรู้สึกไม่มั่นใจเลย แล้วอาการเสียวฟันเพราะเคสแบบนี้จะแก้ยังไงครับ ไม่อยากขูดหินปูนเพราะร้อยละ90 เหงือกพังหมดเลย ดูแลยังไงดีครับ ขอบคุณครับ
ส่งโดย: navy2999
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 7  
   
118.174.38.*


« ความเห็นที่ #1 เมื่อ: 02/27/12 เวลา 12:31:25 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

สิ่งที่คุณหมอของคนไข้เล่าให้ฟังก็จริงตามนั้น (แอบงง ว่าทำไมไม่เชื่อ และแอบงงต่อว่า จะมีคนไข้ขอหมอเอง ไม่เชื่อด้วยหรือเปล่า อิอิ)
 
คนเรามักคิดว่า เวลาเสียวฟัน จะเกิดจากฟันผุ ซึ่งไม่ใช่เลย คนเราเสียวฟันได้จากหลายสาเหตุมาก สาเหตุง่ายๆ ก็มาจากตัวฟันเอง หรือไม่ก็เกิดจากเหงือก (หรือสาเหตุอื่นๆ ที่พบน้อย เช่นความผิดปกติของเส้นประสาท โรคหัวใจ)
 
ตัวฟันมีปัญหา เช่น ฟันผุ หรือฟันสึก ก็ทำให้เสียวฟันได้ เพราะความผิดปกติดังกล่าวกระตุ้นเส้นประสาทที่อยู่ภายในโพรงประสาทฟัน จึงมีอาการเสียวฟันเวลากินน้ำเย็น หรือของหวาน ของเปรี้ยว
 
เหงือกมีปัญหา เช่นเหงือกร่น เหงือกอักเสบ  
 
วิธีการแก้ปัญหา ก็ต้องค้นหาสาเหตุให้ได้ก่อน บางทีอาจเป็นทั้งสองส่วน  
 
ปัญหาเหงือกอักเสบ ซึ่งมีหินปูนเป็นสาเหตุร่วม คนไข้มักไม่ค่อยให้ความสนใจ เพราะมันแสดงอาการช้า นานหลายปีกว่าอาการจะกำเริบ จริงๆ แล้วโรคเหงือกอักเสบและหินปูน เป็นมหันภัยเงียบ พอแสดงอาการขึ้นก็มักรักษาไม่ค่อยหาย เป็นรุนแรง มีโอกาสสูญเสียฟันได้สูง  
 
วิธีการรักษาโรคเหงือกอักเสบ คือการขูดหินปูน + การดูแลรักษาเหงือก (ด้วยการใช้ไหมขัดฟันและการแปรงฟันอย่างถูกวิธี) ด้วยตนเอง ที่ต้องมีทั้งสองส่วนเพราะ คนเราไม่สามารถสังเกตเหงือกตนเองได้ดีพอ จำเป็นต้องให้คุณหมอช่วยดูให้ (ทุก 6 เดือน) หมอเองเป็นหมอฟัน ก็ต้องไปนอนให้หมอฟันท่านอื่นดูเหงือกและฟันให้เช่นกัน
 
ความเข้าใจผิดว่า การขูดหินปูนทำให้เหงือกร่นมากขึ้น เหงือกเสีย เหงือกพัง เจอได้บ่อยๆ การขูดหินปูนอาจทำให้เหงือกชอกช้ำบ้างในช่วงแรกหลังรักษาใหม่ๆ แต่มันจะกลับมาดีขึ้นในไม่ช้า  คนที่มีหินปูนมาก ย่อมเจ็บเหงือกมาก แต่เมื่อเหงือกสุขภาพดี กลับไปหาคุณหมอเพื่อตรวจสภาพทุก 6 เดือน การหินปูนแทบจะไม่เจ็บเลย เพราะเหงือกแข็งแรงแล้ว การขูดหินปูน นอกจากเป็นการทำความสะอาดเอาคราบหินปูนออกแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นให้มีหายของเหงือก เหงือกได้สร้างเซลล์ใหม่ๆ ขึ้นมาแทนเซลล์เหงือกที่ตายเพราะเชื้อโรค บางครั้งเหงือกดูร่นลงไป ก็เพราะเหงือกถูกทำลายโดยเชื้อโรคไปแล้ว ระดับเหงือกจึงต่ำลง แต่เหงือกจะมีสุขภาพดีขึ้น แนบแน่นกับฟันมากขึ้น ซึ่งเป็นลักษณะของเหงือกที่แข็งแรงค่ะ
 
สรุป ควรกลับไปหาคุณหมอเพื่อรักษาฟัน ให้สุขภาพดี ถ้าสุขภาพฟันดีแล้ว ก็รักษาเหงือก ให้สุขภาพดี ถ้าสุขภาพเหงือกดีแล้ว ถ้าอาการเสียวฟันยังอยู่ คุณหมออาจทายาลดอาการเสียวฟันให้ และคนไข้ก็อาจใช้น้ำยา หรือยาสีฟันที่ช่วยลดอาการเสียวฟัน (ต้องใช้ต่อเนื่อง) ร่วมด้วย ปรับการรับประทานอาหาร หลีกเลี่ยงอาหารที่อาจกระตุ้นอาการ และควรไปหาคุณหมอเพื่อเช็คสภาพทุก 6 เดือนนะคะ
ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 9097  
   
115.87.153.*


Page(s) : 1 


แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print



Reply this Topic reserved for registed member only. Register



  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by