« เมื่อ: 02/24/12 เวลา 15:20:59 » |
|
สวัสดีค่ะ หนูได้ไปอุดฟันมา ซึ่งก่อนอุดนั้น ฟันซี่นั้นไม่ได้ปวดหรือเสียวเลย แต่ว่ามันพุนิดนึง นิดเดียวจริงๆค่ะ หมอเลยอุดให้ พอหลังจากอุดเสร็จ ได้มีการรื้ออุดใหม่ทั้งหมดสองครั้ง รื้อครั้งแรก รื้อออกไม่หมดอะค่ะ ออกนิดเดียวแล้วอุดใหม่เฉพาะตรงนั้น พอกลับมาบ้านก็ไม่เป็นไร ทานอะไรได้ตามปกติ แต่หลังจากนั้นอาทิตย์นึงกลับไปหาคุณหมอใหม่เพราะที่อุดไว้มันหลุดออกมานิดน ึง( ตรงที่รื้อครั้งแรกแล้วอุดใหม่นิดนึงอะค่ะ ตรงนั้นมันหลุด ) ก็เลยได้รื้ออุดใหม่ครั้งที่สอง ทีนี้รื้ออุดใหม่หมดเลย แต่ครั้งนี้แหละค่ะ กลับมาแล้วเจอปัญหา คือเวลาเคี้ยวหรือกินอะไร หรือดื่มน้ำ มันจะมีอาการเสียวฟันจี๊ดๆ เป็นอย่างนี้อยู่สามสี่วัน มันก็หายไป หนูก็เลยคิดว่า มันคงไม่เป็นอะไร เพราะมันหายแล้ว แต่หลังจากนั้นอาทิตย์นึงได้มั้งค่ะ มันปวดค่ะ แบบพอดื่มน้ำ หรือกลั้วๆน้ำ มันจะปวดตื๊ดๆอะค่ะ แล้วหลังจากนั้นประมาณสองอาทิตย์กว่าๆอะค่ะ มันเริ่มปวดมากขึ้น จนสองสามวันมานี้มันปวดมาก อยู่เฉยๆก็ปวด(มาก) จนทนไม่ไหวต้องกินยาแก้ปวดที่เม็ดสีชมพูอะค่ะ กินมาสามสี่วันแล้วอะค่ะ เช้า กลางวัน เย็น แล้วเวลาดื่มน้ำ หรือแปรงฟัน แล้วน้ำไปโดนฟันซี่นั้นเข้า กินข้าว เวลาอาหารไปโดน หรือเคี้ยวอาหารไปโดน จะปวดมาก ปวดแบบทรมานมากเลยอะค่ะ จนวันนี้เมื่อบ่ายโมง ได้ไปหาหมออีกคน แล้วหมอเคาะ + เป่าลมแล้ว มันปวดมากเลยอะค่ะ หมอเลยเอ็กสเรย์ดูแล้วบอกว่าต้องรักษารากฟันอะค่ะ คือหนูอยากจะทราบว่า มันเกิดจากอะไรหรอค่ะ ที่ทำให้มันเป็นมากจนต้องรักษารากฟันเลยอะค่ะ ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้น ก่อนที่จะอุด ฟันซี่นี้มันไม่ได้เป็นอะไรเลยอะค่ะ ไม่ปวด ไม่มีอาการใดๆทั้งนั้นเลยอะค่ะ แค่มันผุนิดเดียวเองอะค่ะ หมอคนเดิมก็บอกว่าผุนิดเดียว แล้วทำไม มันถึงเป็นหนักจนต้องรักษารากฟันด้วยอะค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
|
|