แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print

 หัวข้อ 1114: สอบถามเรื่องรักษารากฟันครับ  (จำนวนคนอ่าน 7252 ครั้ง)
« เมื่อ: 02/27/11 เวลา 01:40:06 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

คือผมไปรักษารากฟันมาคับ  หมอบอกต้องใส่ครอบฟันด้วย ก็ทำการรักษาไป จนเสร็จในขั้นตอนของการรักษาราก แล้วก็รอดูอาการ 2 เดือน เพื่อที่จะใส่เดือยฟัน  แต่ยังไม่ทันครบ 2 เดือน ได้สักเดือน นิดๆ  ผมเริ่มปวดฟันซี่นั้นมาอีก  จึงกลับไปหาหมอ  หมอบอกว่าต้องล้างและรักษารากฟันใหม่  อาการก็ดีขึ้น  จน ครบเดือน 2 ก็มาใส่เดือยฟัน6ครอบฟันละคับ  ในช่วงแรกที่ใส่นี่ไม่มีปัญหาอะไรเลย เคี้ยง กิน กัด ได้ตามปกติ แต่พอผ่านไปสัก 6-7 เดือน โดยประมาณ  ผมก็ปวดฟันซี่นั้นขึ้นมา  ไม่แน่จัยว่าไปกัดอะไรแข็งๆมารึเปล่า  พอปวดผมก็ไปหาหมอ  หมอบอกว่าไม่เปนอะไร ให้ยาแก้ปวด แก้อักเสบ และลดบวมมากิน  ก็ดีขึ้น  แต่ฟันซี่นั้นก็ยังเสียวอยู่เมื่อกินของเย็น  ผมเลยไปหาหมอใหม่  หมอก็เลยกรอครอบฟันให้ผมใหม่ เนื่องจากว่าอาจจะยังไม่เข้าที่เข้าทาง อาการปวดก็หายไปคับ  แต่อาการเสียวฟันยังมีอยู่เรื่อยๆ  จนเวลาผ่านไป 3-4 เดือน ฟนซี่นั้นกลับมาปวดอีกแล้วคับ  ก็ไปพบหมอเหมือนเดิม ก็ให้เขา x*rays ให้ เขาบอกไม่มีอะไรผิดปกติ ที่เสียวฟันอาจจะเป็นเพราะเหงือกร่น แต่ไม่น่าจะปวดเพราะรากฟันก็ไม่หัก และยังอุดดีอยู่ หมอบอกงี้คับ ผมก็งงนะคับ  อาการปวดของผมจะเป็นช่วงกลางคืนจนถึงเช้า ไม่ต้องหลับต้องนอนล่ะคับ ปวดทั้งคืน  กลางวันจะไม่ปวดเลย  หมอก็เลยให้ยาชุดเดิมมากินอีก  ตอนนี้ก็รอดูอาการอยู่น่ะคับว่าจะปวดอีกมั้ย  
1. ส่งที่ผมต้องการทราบคือ อาการผมแบบนี้เป็นเพราะอะไร
2. เป็นไปได้มั้ยคับ ที่ว่าอาจจะยังมีหนองที่เกิดจากรากฟันเสีย ตั้งแต่ตอนแรกค้างอยู่ เนื่องจากมีการรักษาถึง 2 รอบ แต่เวลามันก็ผ่านมานานแล้ว -*-
3. ถ้าอาการผมเป็นเพราะอาจจะยังมีหนองเสียอยู่ วิธีแก้คือ เอาครอบฟันออก แล้วรักษารากฟันใหม่ใช่มั้ยคับ  ถ้าเช่นนั้น ต้องทำเดือยฟันกับครอบฟันใหม่ หรือไม่คับ แล้วค่าใช้จ่ายแพงมั้ยคับ  
ขอบคุณมากนะคับ
ส่งโดย: Benz_kung
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 4  
   
180.183.165.191 fwd for 192.168.16.*


« ความเห็นที่ #1 เมื่อ: 02/27/11 เวลา 06:53:11 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

1. ก็เป็นไปได้หลายอย่าง ส่วนใหญ่หมอก็เห็นด้วยกับคุณหมอของคุณ ทั้งนี้เพราะหมอไม่สามารถตรวจช่องปากของคุณได้ผ่านอินเตอร์เน็ต ฉะนั้นจากข้อมูลเท่าที่เขียนมาก็โอเค
2. ก็เป็นไปได้ทั้งนั้นค่ะ จะติดใจตรงที่คนไข้มีอาการปวดตอนกลางคืน อาจเป็นสัญญาณของโรคในรากฟันได้ แต่หากคุณหมอตรวจดูแล้วปกติ ก็น่าจะปกตินะคะ
3. ใช่แล้ว ต้องเอาครอบฟันออกและรักษาใหม่ และก็ทำอันใหม่ใส่กลับเข้าไป เรื่องค่ารักษาหากรักษากับที่เดิม เขาน่าจะมีส่วนลดให้ค่ะ
 
เรื่องความสำเร็จของการรักษารากฟันนั้นคาดคะเนได้ยาก การรักษารากฟันเป็นทางเลือกหนึ่งของการรักษา อันนี้ก็ต้องทำใจ หากบางครั้งมันรักษาไม่หาย ก็อาจต้องถอนฟันซี่นั้น ค่ะ ฉะนั้นโดยปกติคุณหมอจึงจะใช้วิธีสังเกตอาการไปเรื่อยๆ ดูก่อน เผื่อว่ามันจะกลับมาหายดีได้น่ะค่ะ
ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 9097  
   
58.9.41.*


« ความเห็นที่ #2 เมื่อ: 02/27/11 เวลา 11:18:32 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ขอบคุณ คุณหมอหนิงมากคับ  เมื่อคืนนี่แทบไม่ได้นอนเลย  วันนี้ก็ไปหาหมอมาแล้ว แต่คนละที่กับที่ไปรักษาประจำ เขาก็ x-ray ดูแล้วบอกว่า อาจจะเป็นอีกซี่ถัดไปก็ได้  เพราะอุดฟันลึกเกินไปอาจจะไปถึงโพรงประสาทฟัน  ต้องลองรื้อดู แล้วถ้าผุไปถึงรากฟันก็ต้องรักษาแล้วทำครอบฟันใหม่น่ะคับ  -*-  เลยตัดสินใจรออีกวันนึง ไม่รุ้จะได้นอนอีกมั้ยคืนนี้ ที่ต้องรอเพราะหมอที่ไปตรวจประจำหยุดวันอาทิตย์น่ะคับ -*-  ขอบคุณมากๆคับ
ส่งโดย: Benz_kung
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 4  
   
180.183.165.191 fwd for 192.168.16.*


« ความเห็นที่ #3 เมื่อ: 02/27/11 เวลา 18:17:21 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

หมอหนิงคับ  ทำไมมันต้องปวดตอนกลางคืนเหรอคับ  แล้วทำไงให้หายปวดได้บ้างคับในระหว่างช่วงรอพบหมอ  เพราะผมกินยาแก้ปวดฟันไป  มันก็ไม่ได้หายปวด  ต้องอมน้ำแข็งหรือน้ำเย็นเกือบทั้งคืนอ่ะคับ T^T
ส่งโดย: Benz_kung
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 4  
   
180.183.165.191 fwd for 192.168.16.*


« ความเห็นที่ #4 เมื่อ: 02/27/11 เวลา 18:57:50 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

พบว่าตอนกลางคืน เรามักจะนอน ซึ่งทำให้เกิดแรงดันกดลงไปในฟันตามแรงโน้มถ่วง ถ้าฟันซี่นั้นเป็นหนอง เกิดแรงดันทับลงไปมากขึ้นก็เกิดอาการปวดขึ้นมา
 
การกินยา อาจช่วยได้บ้าง จริงๆ แล้วในเมื่อมีปัญหาที่ฟัน ก็จำเป็นต้องจัดการที่ฟัน สรุปคือต้องไปหาคุณหมอจึงจะช่วยได้ เมื่อไปพบคุณหมอ หากมีอาการที่รากฟัน คุณหมอจะเจาะระบายหนอง ลดแรงดันภายในฟัน ก็จะช่วยให้อาการปวดลดลงได้
 
วิธีการอื่นๆ ก็ต้องประยุกต์กันไปตามสถานการณ์ บางคนแปะแผ่นกอเอี๊ยะ ให้เย็นๆ ก็ช่วยลดอาการ หรือบางคนใช้วิธีบ้วนน้ำเกลือ บ้วนน้ำยาบ้วนปาก อย่างไรก็ดี พบว่าฟันที่มีปัญหาเช่นนี้ จะไวต่อความร้อน หมายถึง ถ้าอมน้ำอุ่น หรือน้ำร้อน อาการจะปวดรุนแรงกว่าความเย็น ต้องระวังด้วยนะคะ
ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 9097  
   
58.9.41.*


« ความเห็นที่ #5 เมื่อ: 02/28/11 เวลา 13:00:27 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ขอบคุณหมอหนิงมากนะคับ
ส่งโดย: Benz_kung
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 4  
   
101.108.161.100 fwd for 192.168.16.*


Page(s) : 1 


แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print



Reply this Topic reserved for registed member only. Register



  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by