แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print

 หัวข้อ 1104: สอบถามเรื่องครอบฟันค่ะ  (จำนวนคนอ่าน 11175 ครั้ง)
« เมื่อ: 02/18/11 เวลา 01:42:58 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

คือ ฟันหน้า 1 ซี่หักครึ่งค่ะ แล้วหมอก็รักษารากฟันซี่นั้น ทำครอบฟัน+เดือย ติดลงไป ครอบฟันเคยหลวมประมาณ 1 ปี แบบมันโยกได้อ่ะค่ะ มีอาการปวดฟันนิดหน่อย ตอนนี้จัดฟันอยู่ เลยบอกหมอที่จัดฟันแล้วหมอที่จัดฟันเค้าก็เอาออกมาแล้วติดคือให้ใหม่ แล้วก็บอกอีกด้วยว่าเดี๋ยวต้องให้หมอที่เก่งเรื่องครอบฟันดูอีกทีเพราะแกไม่ เก่งเรื่องครอบฟัน อยากถามว่า
- ที่มันหลวมเป็นเวลานานจะมีผลอะไรมั้ยค่ะ(ปวดฟัน เป็นระยะๆแต่ปวดไม่มากค่ะ)
- อายุการใช้งานครอบฟันโดยรวมมันได้กี่ปีค่ะ(รักษารากด้วย) ดิฉันทำครอบฟันมา 6 ปีแล้ว  
- ตอนนี้จัดฟันได้ 1 ปีครึ่งแล้ว  ตัดสินใจบอกหมอที่จัดฟันว่าปวดฟันซี่ที่ทำครอบฟันอ่ะค่ะ (ตอนแปรงฟันบางครั้งก็มีเลือดออกแต่คิดว่าน่าจะเป็นเพราะซื้อแปรงมาใหม่มากก ว่าค่ะแรงไปหน่อย) แล้วหมอที่จัดฟันให้ปรึกษาหมออีกคนหนึ่งที่เคลียช่องปาก(หมอที่จัดฟันกับเคล ียช่องปากคนละคนกันนะค่ะ) หมอที่เคลียช่องปากดูให้แล้วบ หมอบอกว่าไม่น่าปวดนะเพราะฟันมันก็แน่นดี สาเหตุที่ปวดอาจเป็นเพราะโรคเหงือก แล้วหมอก็เกลาฟันให้ (ดิฉันคิดว่าตัวเองไม่ได้เป็นโรคเหงือก เพราะไม่มีอาการที่บ่งชี้เลยว่าเข้าค่าย แต่หมอบอกว่าก็ไม่แน่ใจเพราะเขาบอกว่าไม่ค่อยเก่งเรื่องรากฟัน ) อยากถามว่าที่ปวดอาจเป็นเพราะครอบฟันเคยหลวมเป็นเวลานานหรือเปล่าค่ะ  
รบกวนคุณหมอที่รู้ ช่วยตอบหน่อยนะค่ะ
เพราะกลัวว่ามันจะอยู่ได้ไม่นาน แล้วฟันก็ใกล้จัดเสร็จแล้วด้วย กลัวว่าจัดเสร็จแล้วไปหาหมอที่เก่งเรื่องครอบฟัน ถ้าหมอบอกว่ามีปัญหาได้ถอนแล้วใส่ฟันปลอม แย่เลย!!!!!  Cry
ส่งโดย: mukkung1
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 3  
   
58.11.100.*


« ความเห็นที่ #1 เมื่อ: 02/18/11 เวลา 06:52:51 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

- ต้องดูว่าที่ครอบฟันหลวม เกิดจากครอบฟันเองหรือว่ารากมีปัญหาด้วย ถ้ารากฟันมีปัญหาจะแก้ยากหน่อย ยิ่งมีอาการปวดยิ่งน่าเป็นห่วงอาจเกี่ยวกับรากฟัน อีกทั้งแรงจากการจัดฟันจะยิ่งกระตุ้นให้อาการในรากฟันมีมากขึ้นได้
- 6 ปี ถือว่านานพอสมควร จริงๆ แล้วไม่มีอายุที่แน่นอน เพราะขึ้นกับการใช้งานเป็นหลัก ถ้าสมบุกสมบันมากก็จะเสื่อมไว โดยทั่วไปไม่เกิน 10 ปีค่ะ อย่างเก่ง
- จากรายละเอียดที่เล่ามา อาการก็ยังไม่คลุมเครือ จำเป็นต้องให้คุณหมอตรวจดูให้ชัดเจน หากท้ายที่สุดมีปัญหาที่รากฟันจริงๆ ไม่สามารถรักษาไว้ได้ ก็ขอให้ทำใจ เพราะถ้าคิดให้ดี ฟันซี่นั้นก็ได้ตายไปตั้งแต่เรารักษารากฟัน+ครอบฟันในครั้งแรกแล้ว การรักษารากฟัน+ครอบฟันเป็นเพียงการคงสภาพฟันให้ติดอยู่ในปากได้อีกระยะเท่า นั้น  Smiley
ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 9097  
   
58.9.55.*


« ความเห็นที่ #2 เมื่อ: 02/19/11 เวลา 05:22:51 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

เกลารากฟัน รู้สึกเหงือกมันบวมๆ เป็นเพราะการเกลารากฟันใช่มั้ยค่ะและตอนนี้เวลากัดฟันก็ยังรู้สึกปวดแบบเดิม อยู่ อ๋อหนูใส่ที่ยกฟันด้วยนะค่ะตอนกัดครอบฟันไม่ได้โดนฟันล่างโดยตรงแต่ปลายเขี้ ยวโดนค่ะ (ตอนนี้เจ็บเหงือกบริเวณที่หมอเกลามากกว่าค่ะสองวันแล้ว)คุณหมอที่เกลารากฟั นบอกให้ใช้ไหม้ขัดฟันร่วมด้วยค่ะเพื่อทำความสะอาดให้ลึกขึ้น หมอบอกด้วยว่า 1 อาทิตย์ ถ้าไม่หายปวดก็ให้มาหาอีก ตอนที่ใช้ไหม้ขัดฟันเลือดออกทุกครั้งที่ใช้เลยค่ะอาจจะเป็นเพราะหนูทำแรงเกิ นไปหรือเปล่า(วิธีใช้คุณหมอเขาสอนด้วยค่ะ)
ตอนนี้สับสนเอามากๆค่ะ  
ตอนจัดฟัน(แรกๆเลยนะค่ะก่อนติดเครื่องมือ)มีฟิล์มเอกซเรย์ฟัน คุณหมอที่จัดฟันเขาก็ดูแล้วดูอีก ซี่ที่ทำครอบฟันอ่ะค่ะรู้สึกจะเห็นรากไม่ชัดเลย คุณหมอเลยเอกซเรย์แบบซี่เดี๋ยวอ่ะค่ะ(ฟิล์มเล็ก) ก็ยังเห็นไม่ชัดอยู่ดี ตอนที่หนูไปหาหมอที่เคลียช่องปากเรื่องปวดครอบฟัน ก็เล่าให้หมอฟังแล้วเขาก็เอาฟิล์มใหญ่ออกมาดู รองกดบริเวณรากฟันตรงเหงือกหมอบอกว่าไม่มีอะไรบวม(ไม่มีหนองตรงราก) ไม่น่าปวดนะ แต่ตอนกดหนูก็รู้สึกค่ะว่าปวดตึงๆจะกล้ำกลึ่งเสี่ยงกับปวด แต่ไม่มากค่ะ ***คือหนูไม่รู้จะปรึกษาใครแล้วจริงๆค่ะ เพราะคิดว่าจะโทรไปถามหมอคนเก่าที่ทำครอบฟันให้ก็ไม่ได้ คือหมอคนเก่าเขาเสียชีวิตไปแล้วค่ะ T_T  Cry *** แล้วข้อมูลที่บอกหมอที่เคลียช่องปากไปเหมือนแกจะไม่ค่อยสนเท่าไหร่ หนูเลยขอให้หมอเขาอธิบายให้ฟังว่า ที่เกลารากฟันเพราะอะไร โอเคหนูเข้าใจเรื่องนี้ และหมอก็อธิบายพร้อมเอาฟิล์มให้ดูด้วยค่ะ ว่ารากฟันที่หนูเคยรักษามาจะมีการอุดไว้(จุดเล็กๆดำๆในฟิล์ม)(ฟิล์มนี้คือฟิ ล์มก่อนจัดฟันนะค่ะ) หมออธิบายต่อว่าหนูทำครอบฟันอย่างนี้นะอะไรแบบนี้อ่ะค่ะ หมอคนเก่านั้นจะทำเดือยฟันเพื่อให้เข้าพอดีกับบริเวณที่อุด เพื่อไม่ให้มีช่องว่างตรงที่อุด ใส่ตัวยืด(กาวที่ติดอ่ะค่ะ)ลงไปเพื่อให้แน่น แต่ในฟิล์มหมอก็บอกว่าเดือยมันปิดไม่หมดมีช่องว่างอยู่เล็กน้อย แต่เท่าที่หมอจับครอบฟันมันก็ไม่ได้ยก หรือ หลวม (หนูคิดในใจว่าหนูบอกไปแล้วว่าหมอที่จัดฟันเขาถอดแล้วติดเข้าไปให้ใหม่) โอ้ยยยหนูหนักใจจริงๆ (ตอนนี้หนูเข้าใจและพอมีความรู้อยู่บ้างนะค่ะเรื่องครอบฟันและเดือยฟันรวมถึ งรากและการรักษาราก จากที่หาข้อมูลมาอ่านและฟังคำอธิบายจากหมอ)
ขอถามนะค่ะ  
- ช่องว่างที่เดือยไม่ถึงอ่ะค่ะบริเวณรากฟันมันจะมีผลอะไรมากมั้ยค่ะ เพราะว่าหมอติดเดือยปิดไปแล้ว
- สับสนค่ะ เท่าที่หนูอ่านในเน็ตมาก็ได้ข้อมูลเหมือนหมอหนิงให้นี้แหละค่ะว่าการใส่ครอบ ฟันและยังเคยรักษารากฟันอยู่ได้ไม่เกิน 10 ปี ประมาณ 5-8 ปี*แต่หมอที่เคลียช่องปากบอกว่าการทำลักษณะนี้มันอยู่ถาวร* นี้หนูงงข้อมูลค่ะ
- แล้วถ้าเอกซเรย์ซี่เดียว(ฟิล์มเล็กอ่ะค่ะ) มันจะตรวจหาสาเหตุเจอมั้ยค่ะ  
- แล้วที่ว่า"โดยทั่วไปไม่เกิน 10 ปี อย่างเก่ง"(ที่คุณหมอหนิงว่า) หมายถึงต้อง เอาออกทั้งรากหรอค่ะหรือเฉพาะครอบฟัน? แล้วถ้าเป็นเฉพาะครอบฟันที่เอาออกเราจะทำใหม่ได้มั้ยค่ะ?
- แล้วถ้าเราไปตรวจอย่างละเอียด ค่าใช้จ่ายมันเยอะมั้ยค่ะ? (ตอนนี้หนูบริหารเงินเองอ่ะค่ะ)
หนูเศร้าเลยค่ะ แต่ยังดีหนูคิดว่าถ้ามันยังอยู่ในช่วงจัดฟันอยู่ก็พอจะคุยกับหมอจัดฟันได้ เพราะคุยกับหมอแล้วถ้าได้เอาซี่นั้นออกจริงๆก็ต้องถอนซี่คู่ของมัน บน-ล่าง  
ที่หนูกลุ้มใจก็เพราะว่าหมอยังตรวจไม่ละเอียดเลยว่าปวดเพราะอะไรแล้วฟันใกล้ จะจัดเสร็จแล้วด้วย จัดเสร็จหนูได้ใส่ฟันปลอมอย่างนี้แย่เลยค่ะ หนูพึ่งอายุ 20 ปี เอง อนาคตยังอีกยาว  แล้วหนูเป็นคนพูดเก่งด้วย T_T  Cry
แล้วสอบเสร็จเดือนหน้าหนูก็จะไปเที่ยวสิมิลัน หลังจากนั้นก็กลับบ้านที่ต่างจังหวัดอ่ะค่ะ (กลับยาวเลยค่ะ) คุณหมอช่วยแนะนำหน่อยค่ะควรจะทำอย่างไงกับฟันซี่นี้ดี (ขอบคุณคุณหมอมากเลยค่ะ)  Cheesy
ส่งโดย: mukkung1
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 3  
   
58.8.185.*


« ความเห็นที่ #3 เมื่อ: 02/19/11 เวลา 06:57:04 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

1. จริงๆ แล้วช่องว่างนั้นอาจจะเป็นที่อยู่ของกาว จึงไม่ติดสีเวลาเอ็กซเรย์ หรือเป็นองศาของการถ่ายเอ็กซเรย์จึงเห็นช่องว่างขึ้น อย่างไรก็ดี ถึงมีช่องว่างบ้างเล็กน้อย ส่วนใหญ่หมอจะใช้วิธีสังเกตอาการไปเรื่อยๆ ถ้าปลายรากฟันไม่มีปัญหาเกิดหนอง หรือมีเงาสีดำเกินขึ้นในฟิล์ม ก็น่าจะปกติ ไม่ต้องแก้ไขอะไร
2. "ถาวร" ในความหมายของคุณหมอคือ มันไม่สูญสลายไป สามารถใช้ไปได้เรื่อยตราบเท่าที่มันใช้งานได้ หรือ "ถาวร" ในความหมาย ติดอยู่ในปาก ไม่ต้องถอดออกมาล้างมากกว่า
2.1 หากลองพิจารณาดูให้ดี ไม่มีสรรพสิ่งใดในโลกนี้ที่คงอยู่ถาวรได้หรอกค่ะ มันต้องมีความเสื่อมสลายเป็นธรรมดา
3. ฟิล์มเล็ก เป็นการถ่ายเอ็กซเรย์เฉพาะจุด ก็จะเห็นรายละเอียดอะไรๆ ได้มากกว่าฟิล์มใหญ่ค่ะ แต่จะตรวจเจอสาเหตุหรือไม่ ก็ต้องเข้าใจว่าการถ่ายเอ็กซเรย์ช่วยประกอบการวินิจฉัยโรค การวินิจฉัยโรคต้องอาศัยวิธีการหลายๆ อย่าง เช่น การตรวจช่องปาก การเคาะ การสัมภาษณ์ หลายๆ อย่างประกอบกันน่ะค่ะ
4. มีงานวิจัยของฝรั่ง พบว่า ฟันที่รักษารากฟันมาแล้ว จะคงอยู่ในช่องปากได้ประมาณ 10 ปี โดยฟันกรามจะมีอายุน้อยกว่า ฟันหน้า ฉะนั้น ที่หมอบอกหมายถึง ฟันทั้งซี่ค่ะ ส่วนตัวครอบฟัน มักเกิดปัญหามันหลุดง่ายเมื่อผ่านไป 2-3 ปีหลังจากใส่ครั้งแรก เพราะกาวเสื่อมสภาพ นอกนั้นก็อยู่ที่การใช้งาน ถ้าใช้งานปกติก็สามารถอยู่ได้ไปพร้อมๆกันตัวฟันค่ะ
5. อันนี้คงแล้วแต่ แต่ละที่ค่ะ หมอคงไม่สามารถบอกราคาที่แน่นอนได้ แนะนำว่าถ้าไม่อยากแพงมาก ก็ลองไปหาคุณหมอที่คณะทันตแพทย์ มหิดล แถวอนุสาวรีย์ หรือที่จุฬา แถวสยามสแควร์ ดูนะคะ
 
เรื่องเกลารากฟัน อาจจะช่วยได้บ้าง ถ้าหนูเป็นโรคเหงือกตรงนั้น ช่วงแรกอาจจะเจ็บหน่อย แต่เมื่อเหงือกหาย อาการก็น่าจะดีขึ้น หนูควรแปรงฟันอย่างสม่ำเสมอ ใช้ไหมขัดฟันด้วย การบ้วนน้ำเกลือ โดยผสมเกลือ 1 ช้อนชา กับน้ำ 1 แก้ว บ้วนปาก จะช่วยได้บ้าง
 
เรื่องฟันซี่นั้น หมอคิดว่าหนูควรไปหาคุณหมอตรวจดูให้ละเอียด และถามแนวทางการรักษากับเขาให้ชัดเจน หากหนูไปหาคุณหมอที่หนึ่งแล้วยังไม่มั่นใจ ก็แนะนำให้ไปหาอีก จนกว่าหนูจะมั่นใจ ถามหลายๆ ความเห็นน่ะค่ะ เรื่องจัดฟันก็ทำไป เรื่องครอบฟันซี่นั้นก็ต้องรักษา หนูต้องจัดลำดับความสำคัญก่อนหลังในชีวิต พิจารณาดูว่าเรื่องไหนสำคัญกว่ากันก็ควรใส่ใจมันให้มากกว่า ไม่งั้นเราก็จะไม่สำเร็จสักเรื่อง หรือได้แต่สิ่งที่ไม่ใช่สาระของชีวิต นะคะ  
 
ขอให้หนูโชคดีในการรักษาค่ะ
ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 9097  
   
58.9.115.*


« ความเห็นที่ #4 เมื่อ: 02/19/11 เวลา 18:35:09 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

Roll Eyes ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ  Smiley
ส่งโดย: mukkung1
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 3  
   
58.8.185.*


Page(s) : 1 


แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print



Reply this Topic reserved for registed member only. Register



  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by