แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print

 หัวข้อ 1082: จัดฟัน  (จำนวนคนอ่าน 14950 ครั้ง)
« เมื่อ: 01/25/11 เวลา 13:38:19 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

กำลังจะถอดเหล็กหลังจากจัดฟันเข้าที่แล้ว. ไม่ทราบว่าต้องfixเหล็กไว้อีกนานแค่ไหนถึงเปลี่ยนเป็นretainer
retainnerมีกี่แบบคะ แบบไหนดีกว่ากัน ควรใส่แบบไหน
ถ้่ใส่แค่ตอนนอนได้ไหมคะ ไม่อยากใส่กลางวัน  
ขอบคุณคะ
ส่งโดย: Skin
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 29  
   
202.176.185.*


« ความเห็นที่ #1 เมื่อ: 01/25/11 เวลา 14:11:17 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ที่บอกว่าหลังจากจัดฟันเข้าที่แล้ว หมายถึง คิดเอง หรือว่าคุณหมอบอกคะ? เพราะถ้าคุณหมอบอก คุณหมอจะกำหนดวันที่ถอดเครื่องมืออกให้ ซึ่งส่วนใหญ่ จะใช้เวลา 2-3 ปี จากที่เริ่มจัดฟันค่ะ ซึ่งพอถอดเครื่องมืออกแล้ว คุณหมอก็จะพิมพ์ปากเพื่อเอาไปทำรีเทนเนอร์มาใส่ให้ค่ะ แล้วก็นัดอีกครั้งหนึ่งมาใส่ หรือง่ายๆ ก็คือ ถ้าคุณหมอเตรียมทำรีเทนเนอร์เมื่อไหร่ เมื่อนั้นจึงจะหมายถึงจัดฟันเสร็จแล้วน่ะค่ะ
 
รีเทนเนอร์มีแบบติดแน่น และแบบถอดได้ค่ะ ส่วนเรื่องสีสัน เป็นรายละเอียดปลีกย่อยค่ะ ไม่เกี่ยวกับผลการรักษา
 
ส่วนใหญ่ คนไข้จะได้ใส่รีเทนเนอร์แบบถอดได้ ยกเว้นบางคนที่มีปัญหาการสบฟันยุ่งยากเช่น ฟันเกมาก ฟันห่างมาก คนไข้มีแนวโน้มที่ฟันจะเคลื่อนที่กลับเข้าสู่ตำแหน่งเดิม แบบนี้คุณหมออาจพิจารณาใส่รีเทนเนอร์แบบติดแน่น ซึ่งจะเกาะอยู่บริเวณฟันหน้าล่างด้านใกล้ลิ้น ซึ่งมีแนวโน้มจะเคลื่อนที่ง่าย
 
ไม่ใช่ว่ารีเทนเนอร์แบบไหนดีกว่ากัน แต่ต้องดูตามสภาพของคนไข้ค่ะ ซึ่งคุณหมอจะเป็นผู้พิจารณา
 
การใส่รีเทนเนอร์ก็เช่นเดียวกันค่ะ บางคนจำเป็นต้องใส่ทั้งวันทั้งคืน บางคนอาจเลือกใส่ได้ตอนกลางวันหรือตอนกลางคืน ต้องดูตามสภาพของคนไข้ หรือคนไข้บางคนอาจใส่ทั้งวันทั้งคืนในช่วงแรก และค่อยลดเวลาลงเป็นเฉพาะช่วงค่ะ
 
ระยะเวลาในการใส่รีเทนเนอร์มีความสำคัญ ถ้าใส่น้อยเกินไป อาจไม่สามารถพยุงฟันให้อยู่กับที่ อย่างเช่น บางคนต้องใส่รีเทนเนอร์ไปตลอดชีวิตเลย อะไรแบบนี้ก็ยังมี ต้องพิจารณาเป็นรายๆ ไปค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: 01/25/11 เวลา 14:11:45 by หมอหนิง »
ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 9097  
   
183.89.200.*


« ความเห็นที่ #2 เมื่อ: 02/15/11 เวลา 13:17:49 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

สวัสดีค่ะคุณหมอหนิง   ดิฉันใช้เวลาจัดฟัน3 ปีกว่า  คุณหมอก็เอาอุปกรณ์เหล็กดัดออกและให้ใส่รีเทนเนอร์ชนิดถอดออกต่อทันทีเลย เมื่อปลายเดือนธันวาคม '2553 ที่ผ่านมา แต่ปัญหาคือ ตอนที่หมอถอดเครื่องมือออก มีช่องว่างตรงบริเวณฟันกรามบน2ข้าง ที่เคยใส่ห่วง กว้างประมาณ 1 มิลกว่า และมีช่องว่างระหว่างฟันกราม(น้อย)ด้านล่างมุมขวา 1 มิลกว่าอีกที่นึง  แต่ก็ใส่รีเทนเนอร์ประจำ  
 
ปัญหาที่อยากจะปรึกษามีดังนี้ค่ะ
 
1.  มีอาการเสียววู้บบริเวณแถบฟันด้านบน หลังจากเริ่มใส่รีเทนเนอร์ผ่านมาไม่กี่อาทิตย์ สลับด้านซ้ายขวาในแต่ละคืนค่ะ  อยากทราบว่าเป็นอะไร และเกิดจากอะไรคะ  
 
2. หลังจากใส่รีเทนเนอร์ผ่านมา 1 เดือน รู้สึกว่าช่องว่างบริเวณฟันกรามบน ซ้าย-ขวา ตามที่ได้กล่าวมาแล้วนั้น มันกว้างขึ้นมากๆเลยค่ะ ประมาณ 3 มิลเศษได้  ทำให้มีเศษอาหารไปติดทุกมื้อ เยอะมาก  (ตอนนี้ขารีเทนเนอร์อยู่ระหว่างช่องฟันที่ห่างแล้วค่ะ)  ส่วนฟันกรามน้อยด้านล่างขวา ก็ยังกว้างเหมือนเดิม ไม่ชิดเข้ามาเลยค่ะ  
อยากถามว่าจะมีวิธีแก้ไขยังไงได้บ้างคะ ทำไมใส่รีเทนเนอร์ แล้วฟันกรามบนยิ่งห่างออกไป (มากจนมองเห็นชัดเจนเลยค่ะ)
 
3. เวลาใส่รีเทนเนอร์ต้องดันเข้าในปาก อยากทราบว่าขารีเทนเนอร์ต้องขูดกับตัวฟันทุกครั้ง มันจะมีผลต่อเคลือบฟันรึป่าวค่ะ เพราะรู้สึกจัดฟันแล้วเหมือนฟันมันอ่อนแอและบางมากเลยค่ะ
 
4. จะรู้ได้ยังไงคะว่าเราจะใส่รีเทนเนอร์นานแค่ไหน และไม่ต้องใส่ตลอดชีวิต
 
5. การใช้ไหมขัดฟัน ทุกมื้อ  จะทำให้เป็นสาเหตุของฟันห่างรึป่าวคะ
 
รบกวนคุณหมอช่วยตอบด้วยนะคะ ดิฉันกลุ้มใจมากๆ เครียดสุดๆ เลยค่ะ
ขอขอบพระคุณมากค่ะ
ส่งโดย: suda247
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 7  
   
125.25.132.*


« ความเห็นที่ #3 เมื่อ: 02/15/11 เวลา 14:50:33 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

1. อาการเสียวฟัน เกิดได้หลายสาเหตุ ที่พบบ่อยคือ ฟันสึกตรงคอฟัน ฟันผุ หรือหากใส่รีเทนเนอร์ อาจเกิดจากรีเทนเนอร์มีลวด ที่เป็นโลหะ โลหะอาจส่งกระแสความร้อนความเย็นสู่ฟันทำให้เกิดอาการเสียวฟันขึ้น แนะนำว่า หากอาการไม่ดีขึ้น คนไข้ควรไปหาคุณหมอไปตรวจดูเพื่อหาว่ามีสาเหตุอะไรที่ผิดปกติเกี่ยวกับฟันหร ือเปล่า จะได้จัดการได้ตรงจุดค่ะ
2. การที่ฟันเคลื่อนออก เกิดขึ้นได้ เพราะเกิดการคืนกลับของตำแหน่งฟัน แม้เราจะใส่รีเทนเนอร์อยู่เสมอ เพราะฟันมันพยายามฝืนจนได้ ในบางครั้ง หมอต้องใส่รีเทนเนอร์แบบติดแน่นให้คนไข้เพื่อคงสภาพฟันไปตลอดชีวิตก็มี ปัญหาการคืนกลับของฟันมีหลายสาเหตุ ต้องดูพื้นฐานการสบฟันคนไข้แต่ต้นด้วย เช่นบางคนฟันเกมาก ฟันห่างมาก หรือมีฟันหลอ มาก่อน จริงๆ แล้วคนไข้ควรรีบกลับไปหาคุณหมอเมื่อสังเกตถึงความผิดปกติ จะได้แก้ปัญหาได้ทัน การแก้ปัญหามีหลายแบบ บางครั้งอาจต้องติดเครื่องมือใหม่ บางครั้งต้องใส่รีเทนเนอร์ชนิดที่เพิ่มลวดดันฟัน ทั้งนี้ต้องให้คุณหมอที่รักษาเขาตรวจดูก่อน พิจารณาดูว่าจะจัดการอย่างไร  
2.1 บางครั้งการจัดฟันก็ไม่สามารถจัดการปัญหาสบฟันได้หมด บางครั้งฟันบางตำแหน่งอาจยังห่างอยู่ เพราะไม่สามารถดันฟันได้มากกว่านี้แล้ว เข่น รากฟันสั้น ฟันไม่ตอบสนองต่อการเคลื่อนที่จากแรงของเครื่องมือจัดฟัน แบบนี้ คุณหมอจะใช้วิธีการอื่นร่วมด้วยเพื่อแก้ปัญหาเช่น การอุดฟันปิดช่องฟันห่าง การทำครอบฟัน เป็นต้น
3. รีเทนเนอร์จะสัมผัสกับฟัน แต่ไม่แข็งแรงขนาดที่จะขูดเข้าไปในฟันได้ (ผิวเคลือบฟันเป็นอวัยวะที่แข็งแรงมาก จนหมอต้องใช้หัวกรอที่ทำด้วยเพชร ในการตัดเนื้อฟันเลยทีเดียว) แต่การใส่รีเทนเนอร์ไม่ถูกวิธี เช่น ไม่ทำความสะอาด หรือรีเทนเนอร์ไม่พอดี ทำให้เป็นจุดกักเก็บเศษอาหาร และคราบจุลินทรีย์ อาจทำให้เกิดปัญหาฟันผุได้
3.1 จริงๆ แล้ว การใส่เครื่องมือจัดฟันไม่ได้ทำให้ฟันบางลงหรืออ่อนแอลงโดยตรง แต่การใส่เครื่องมือจัดฟันทำให้เราทำความสะอาดฟันได้ยากขึ้น เมื่อฟันไม่สะอาดก็ทำให้เกิดฟันผุ เหงือกอักเสบได้ง่าย คนไข้บางคนพอถอดเครื่องมือจัดฟันแล้ว พบฟันเป็นรอยด่างขาว เป็นดวงๆ นั่นคือฟันผุระยะเริ่มแรกค่ะ
4. คุณหมอที่รักษาจะเป็นผู้ตัดสินใจค่ะ โดยส่วนใหญ่ จะใส่รีเทนเนอร์ประมาณ 1-2 ปี (ในรายปกติ) คือฟันไม่น่าจะเคลื่อนแล้ว
4.1 อย่างไรก็ดี ฟันคนเรามีการเคลื่อนที่อยู่ตลอดชีวิต แต่ในระดับที่ปกติเพราะมีความสมดุล การจัดฟัน มีจุดประสงค์เพื่อให้การสบฟันสมดุล ฉะนั้นฟันจะเคลื่อนที่น้อยหน่อย แต่ในคนไข้บางคนที่ไม่รักษาอะไร เช่น คนที่ฟันเหยินมาก หรือฟันเกมาก เราจะพบว่าคนไข้มักมีปัญหาการสบฟันเพิ่มมากขึ้น เมื่ออายุมากขึ้น ประมาณนี้น่ะค่ะ
5. การใช้ไหมขัดฟัน ไม่ทำให้ฟันห่าง ค่ะ เป็นความเชื่อที่ผิด การใช้ไหมขัดฟันช่วยให้เหงือกแข็งแรงด้วยซ้ำนะคะ ควรใช้อย่างสม่ำเสมอทุกวัน อย่างน้อยก็วันละ 1 ครั้ง ก่อนนอนค่ะ  
ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 9097  
   
183.89.112.*


« ความเห็นที่ #4 เมื่อ: 02/15/11 เวลา 15:30:18 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ขอบคุณมากค่ะคุณหมอที่ช่วยตอบคำถามและให้คำแนะนำ  
   แต่ว่าที่สงสัยคือทำไมฟันกรามบน ด้านซ้ายขวาที่เคยใส่ห่วงเหล็ก ช่องว่างรอบด้านฟันมันกว้างขึ้นกว่าเดิมได้ล่ะคะ  ทั้งๆที่ฟันด้านหน้า บน-ล่าง ก็เรียงตัวปกติเหมือนตอนใส่เหล็กดัด  
   ดิฉันได้ไปพบแพทย์มาแล้วตอนปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา  หลังจากใส่รีเทนเนอร์ครบ 1 เดือนตามนัด แต่คุณหมอได้แต่ตกใจ บอกว่าทำไมมันห่างขนาดนี้ คือเค้าก็ไม่รู้สาเหตุ  ถามว่าจะแก้ไขยังไง เค้าก็บอกว่าอาจต้องจัดฟันใหม่ หรือลองใช้รีเทนเนอร์ชนิดเพิ่มลวดดันฟัน  แต่ตอนนี้เค้าให้ใส่รีเทนเนอร์อันเดิมดูไปก่อน ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม ใส่กลับให้เหมือนเดิม (ไม่ได้ดัดอะไรเพิ่ม)  
ทำให้ดิฉันรู้สึกแย่มากๆ ไม่รู้จะไปปรึกษาใครดี เลยหวังว่าคุณหมอหนิงจะให้คำแนะนำที่ดีกว่าได้ค่ะ  
   อยากทราบว่า ถ้าปล่อยช่องว่างรอบฟันกรามนี้ที่เคยใส่ห่วง โดยไม่จัดฟันใหม่อีกรอบ  มันจะกว้างขึ้นอีกรึป่าว หรืออนาคตมันจะเกิดอะไรร้ายแรงขึ้นบ้างป่าวคะ
ส่งโดย: suda247
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 7  
   
61.201.197.*


« ความเห็นที่ #5 เมื่อ: 02/15/11 เวลา 16:06:50 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ทำไมฟันจึงห่างออก --> เพราะเกิดการคืนกลับของตำแหน่งฟัน (relapse) --> ทำไม relapse --> เอ็นยึดปริทันต์ที่อยู่รอบๆ ฟัน (ทำหน้าที่ยึดฟันอยู่ในเบ้ากระดูก) ซึ่งปกติแล้ว เมื่อมีแรงจัดฟัน ดันฟันให้เคลื่อนที่จากตำแหน่งเดิมไปตำแหน่งใหม่ เอ็นมันก็จะยืดแล้วไปสร้างอยู่จุดใหม่ แต่บางที เอ็นมันยืดไปแล้วไม่ย้ายไป มันดันดึงฟันกลับเข้าที่เดิม ก็เกิด relapse ขึ้น เราไม่สามารถพยากรณ์การ relapse ได้ เพราะอยู่ที่การตอบสนองของร่างกายคนไข้แต่ละคน และต้องดูสาเหตุของปัญหาตั้งแต่ต้นด้วย ว่าเป็นมากน้อยแค่ไหน (ดังที่กล่าวไว้แล้วในความเห็นก่อน) หมอสามารถประคองฟันให้คงที่และหวังว่ามันจะไม่คืนกลับได้หรือเกิดขึ้นช้าที่ สุด ด้วยการใส่รีเทนเนอร์นั่นเอง
 
คำแนะนำของคุณหมอที่คนไข้รักษาอยู่ ก็ตรงกับที่หมอคิดค่ะ (จัดใหม่/ติดลวดเพิ่มเพื่อดันฟัน) การสังเกตอาการ เพื่อดูการตอบสนองของร่างกายคนไข้ค่ะ ถ้าตอบโดยส่วนตัว หากผลการรักษาในการจัดฟันครั้งแรกยังไม่ดีพอ การติดเครื่องมือจัดฟันใหม่ ก็เป็นแนวทางหนึ่งที่เลือกใช้ได้ค่ะ
 
เรื่องช่องว่างจะกว้างขึ้นไหม? --> ต้องดูไปที่ก่อนจัดฟันค่ะ ช่องว่างจะกว้างขึ้นเท่าที่มีมาแต่เดิมค่ะ ในอนาคต ถ้าการสบฟันยังไม่คงที่ ร่างกายก็จะพยายามเฉลี่ยการสบฟันให้เข้าสู่สมดุล คือใช้งานได้ แต่ความสมบูรณ์ของการสบฟันอาจไม่สมบูรณ์แบบ ปัญหาอาจคงที่หรือแย่ลงก็ได้ ต้องดูเป็นรายๆ ไป ติดตามสังเกตอาการเป็นระยะๆ น่ะค่ะ Smiley
« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: 02/15/11 เวลา 16:08:32 by หมอหนิง »
ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 9097  
   
183.89.112.*


« ความเห็นที่ #6 เมื่อ: 02/15/11 เวลา 16:40:47 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ขอบคุณมากค่ะ  
   ตอนที่จัดฟัน คุณหมอถอนฟันออกทั้งหมด4ซี่ ด้านบนกับล่างทั้ง2ข้าง (ฟันไม่คุดเลยไม่ได้เอาออกค่ะ)  และคุณหมอเลือกจัดฟันโดยเขยิบฟันจากด้านหลังสุดออกทางด้านหน้า พอฟันเข้าที่ พบว่าหน้าตอบปากยื่น ฟันบนบานออกเพื่อครอบฟันล่าง (เพราะของเดิมกระดูกขากรรไกรล่างใหญ่กว่าบน ฟันล่างครอบฟันบนค่ะ)  เลยบอกให้คุณหมอแก้ เค้าเลยจัดใหม่ โดยการขยับฟันไปด้านหลังค่ะ (เหตุผลที่หมอบอกคือว่าทีแรกกลัวหน้ายุบเหมือนคนแก่ เลยจัดฟันขยับออกจากด้านใน)  จนทำให้ใช้เวลาจัดนานถึง 3 ปีครึ่ง  ตอนนี้อายุ 31 แล้วค่ะ  
   จริงๆฟันเดิมไม่มีช่องว่างค่ะ มีฟันเกย์ฟันซ้อนบางซี่ ฟันขึ้นครบแน่นค่ะ    
แล้วถ้าจัดใหม่ ต้องจัดเฉพาะซี่หรือทำทั้งปากค่ะ แล้วอันนี้เป็นค่าใช้จ่ายเรา หรือทางคลีนิกต้องรับผิดชอบคะ  แล้วถ้าจัดอีกรอบมันก็มีโอกาสเป็นแบบนี้อีกใช่รึป่าวคะ สรุปถ้าเป็นแบบนี้อีก และตัดสินใจไม่จัดใหม่ มันจะเกิดอะไรขึ้นบ้างคะ แล้วจะเอารีเทนเนอร์ออกได้มั๊ย
ส่งโดย: suda247
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 7  
   
61.201.197.*


« ความเห็นที่ #7 เมื่อ: 02/15/11 เวลา 17:44:49 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

เท่าที่คนไข้เล่าให้ฟัง ฟันคนไข้มีปัญหามากนี่เอง โดยเฉพาะปัญหาขากรรไกรผิดปกติ ซึ่งแก้ปัญหาได้ยากจากการจัดฟันเพียงอย่างเดียว บางครั้งคนไข้อาจต้องได้รับการผ่าตัดขากรรไกรร่วมด้วย เชื่อว่า คนไข้อาจได้รับข้อมูลมาบ้างไม่มากก็น้อย
 
หมอคงไม่สามารถวิจารณ์อะไรได้มาก เพราะไม่ใช่ผู้รักษาโดยตรง การรักษาทางจัดฟันจำเป็นต้องได้รับข้อมูลมากขึ้น ทั้งการตรวจช่องปาก ดูการสบฟัน ดูฟิล์มเอ็กซเรย์ประกอบ คุณหมอที่รักษาคนไข้ น่าจะให้คำตอบได้ดีที่สุดเกี่ยวกับการรักษาคนไข้ในกรณีเช่นนี้ค่ะ
 
ปล.
- หากจัดฟันใหม่ คิดว่าคงต้องจัดทั้งปาก เพราะต้องค่อยๆ ขยับฟันให้เข้าที่
- เรื่องค่าใช้จ่าย ต้องปรึกษากับคุณหมอที่รักษาเอง หมอไม่สามารถตอบประเด็นนี้ได้  
- โอกาสในการเป็นแบบนี้อีก --> หมอจัดฟันสามารถคาดการณ์ผลการรักษาได้โดยเบื้องต้นเท่านั้น ดังที่เขียนไว้ในความเห็นก่อนๆ แล้วว่า มีหลายปัจจัยที่จะทำให้ผลการรักษาออกมาเป็นอย่างไร โดยเฉพาะปัญหาการสบฟันแต่ต้น (ซึ่ง ณ จุดๆ นี้ เห็นว่ามีปัญหามากมาแต่ต้น ทำให้ผลการรักษาออกมาไม่ดีเท่าที่ควร) บางครั้ง จะต้องจัดฟันไปสักระยะก่อนแล้วดูการตอบสนองของร่างกายคนไข้ ซึ่งถ้าสุดท้ายไม่สามารถต่อไปได้อีก เช่น รากฟันสั้นเกินไป ฟันไม่ตอบสนองต่อแรงเคลื่อนที่แล้ว แบบนี้ก็คงต้องยอมรับว่าทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว
- ลองปรึกษาคุณหมอเรื่องการผ่าตัดขากรรไกร เผื่อเป็นอีกแนวทางหนึ่งของการรักษา
- หมอแนะนำว่าควรปรึกษาคุณหมอที่รักษานะคะ เพราะหมอไม่สามารถตรวจคนไข้ได้ผ่านอินเตอร์เน็ต ดังที่เรียนให้ทราบแล้วว่า การรักษาทางจัดฟัน จะต้องได้รับข้อมูลที่มากขึ้นกว่านี้ด้วยการตรวจช่องปาก ตรวจการสบฟัน และเอ็กซเรย์ ฉะนั้นบุคคลที่จะบอกคนไข้ได้ดีที่สุดคือคุณหมอที่รักษา หรือไม่ก็คุณหมอตัวเป็นๆ ที่ไหนซักที่ ให้เขาตรวจสภาพช่องปากของคนไข้ค่ะ (กรณีที่คนไข้ไม่มั่นใจกับคุณหมอท่านแรกแล้ว อย่างไรก็ดี การตรวจกับคุณหมอท่านแรก ย่อมดีกว่า เพราะเขารักษาคนไข้มาตลอด เขาจะมีข้อมูลพื้นฐาน ซึ่งจะพยากรณ์ผลการรักษาได้ดีกว่าคุณหมอท่านใหม่ๆ เพราะการไปหาคุณหมอท่านใหม่ เขาก็ต้องตรวจใหม่ อะไรประมาณนี้น่ะค่ะ)
- อย่างไรก็ดีสิ่งที่จะเป็นไปได้ หากเราไม่ทำอะไรต่อ หรือคนไข้ที่จัดฟันไม่ตลอดรอดฝั่งนั้น ล้มเลิกการจัดฟันกลางครัน (แบบคร่าวๆ) เอารีเทนเนอร์ออกในเวลาที่ไม่สมควร โดยทั่วไป คือ ฟันอาจพยายามเคลื่อนที่ออก กลับสู่ตำแหน่งเดิมก่อนการรักษา เช่น จากที่เคยฟันห่าง ฟันอาจห่างแบบเดิม จากที่เคยฟันเก  ฟันกลับมาเกอีก จากที่เคยฟันเหยิน ฟันอาจเหยิน อีก หรือฟันเคยหลุบ ก็กลับมาหุบอีก ประมาณนี้ค่ะ ซึ่งก็บอกไม่ได้ว่ามากน้อยแค่ไหน เพราะคนไข้แต่ละคนไม่เหมือนกัน  
 
หรืออาจไม่เกิดอะไรขึ้นเลยก็ได้ ฟันคงที่อยู่อย่างนี้ เนื่องจากการใส่รีเทนเนอร์ให้ผลการรักษาที่โอเค ก็เกิดขึ้นได้ค่ะ มันแล้วแต่คนไข้แต่ละคนค่ะ
ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 9097  
   
183.89.112.*


« ความเห็นที่ #8 เมื่อ: 02/16/11 เวลา 09:27:53 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ขอบพระคุณมากค่ะที่ช่วยตอบและแนะนำ
มีข้อสงสัยค่ะ ว่าตอนใส่รีเทนเนอร์ครั้งแรก มันหลวมก็เลยบอกหมอ เค้าก็ปรับอะไรให้ก็ไม่รู้ พอใส่ก็แน่นขึ้นค่ะ  หลังจากนั้น ถ้าเราใส่ไปใส่มาแล้วมันใส่ยาก ไม่ยอมเข้า แต่ก็ยัดเข้าไป อันนี้จะเป็นสาเหตุให้ ฟันกรามด้านบนสองข้างที่เคยใส่ห่วงเหล็กกว้างขึ้นรึป่าวคะ  (เพราะขนาดยาง ยังแยกฟันเราได้เลย)  
แต่ตอนไปหาคุณหมอเมื่อครบ1เดือน เค้าก็ไม่เห็นทำอะไรให้ แค่พูดว่าทำไมมันกว้างขึ้น แล้วให้ใส่ต่อ   แต่ดิฉันมาสังเกต มันดูเหมือนขาเหล็ก อยู่ระหว่างซอกฟันที่ห่างสองข้างพอดีเลยค่ะ  อย่างนี้น่าจะมีโอกาสเป็นสาเหตุได้รึป่าวคะ เพราะกว่าหมอจะเข้า ก็ต้องปลายเดือน แค่เดือนละครั้ง กว่าจะนัดอีกทีค่ะ เลยอยากทราบว่าจะใช่สาเหตุรึป่าวค่ะ
ส่งโดย: suda247
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 7  
   
61.201.197.*


« ความเห็นที่ #9 เมื่อ: 02/16/11 เวลา 09:42:21 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ถ้าจากเดิมที่เคยใส่รีเทนเนอร์เข้า แล้วต่อมาฟันห่างออก นั่นจึงเป็นสาเหตุให้ใส่รีเทเนอร์ได้ยากขึ้น คนทั่วไปนั้นเมื่อใส่รีเทนเนอร์ไปนานๆ รีเทนเนอร์จะหลวมขึ้น (ไม่ได้แน่นขึ้น)  
 
การพยายามยัดรีเทนเนอร์ให้เข้าที่ (ทั้งๆ ที่ฟันห่างออก) ก็จะไปยิ่งถ่างฟันออกได้ อย่างไรก็ดี เราไม่สามารถเปรียบเทียบกับการใส่ยางแยกฟันได้ เพราะการใส่ยางแยกฟันเป็นแค่การถ่างฟันออกจากกันชั่วคราวและเล็กน้อยเท่านั้ นเพื่อมีที่พอให้แบนด์รัดรอบฟันมันสามารถผ่านซอกฟันเข้าไปได้ง่าย
 
ส่วนเรื่องขาเหล็กที่อยู่ระหว่างซอกฟันนั้น ไม่น่าเป็นสาเหตุ เพราะถ้าฟันเคลื่อนออกจากกัน มันเคลื่อนของมันเอง แต่ขาเหล็กนั้นจริงๆ แล้วก็จะมีตำแหน่งที่ถูกต้องของมัน หมอไม่สามารถตอบได้ว่า กรณีของคนไข้ผิดตำแหน่งหรือเปล่า ต้องดูของจริง ฉะนั้นก็แนะนำว่าไปหาคุณหมอที่รักษาให้เชาตรวจดูจะดีที่สุดค่ะ
 
 
 
 
 
 
 
 
« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: 02/16/11 เวลา 09:57:55 by หมอหนิง »
ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 9097  
   
183.89.112.*


« ความเห็นที่ #10 เมื่อ: 02/16/11 เวลา 10:40:51 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

อาจสรุปผิดนิดนึง คือ ปัญหาฟันห่าง ไม่ได้เกิดจากรีเทนเนอร์โดยตรงหรอกนะคะ ฟันห่างมีสาเหตุจากฟันเองมากกว่า เรียกว่า relapse ที่เคยกล่าวไว้ในความเห็นก่อนๆ  
 
เท่าที่อ่าน น่าจะมีการสื่อสารกันระหว่างหมอกับคนไข้ไม่ดีพอ ถ้ายังไงคุยกันมากขึ้นก็น่าจะเคลี่ยร์กันได้ ส่วนปัญหาในการรักษา อันนี้หมอตอบไม่ได้จริงๆ เพราะไม่ใช่ผู้รักษาเองมาแต่ต้น ดังที่กล่าวไว้แล้วนะคะว่า จำเป็นต้องดูหลักฐานจากคนไข้อะไรอีกหลายอย่าง เช่น การตรวจช่องปาก เอ็กซเรย์ อะไรทำนองนี้ หมอสามารถให้ความรู้กว้างๆ ได้เท่านั้นล่ะค่ะ  
 
การรักษาทางจัดฟัน บางครั้งก็ไม่สามารถวางแผนรวดเดียวตั้งแต่ต้น หลายครั้งต้องรักษาๆ ไปแล้วดูการตอบสนองของร่างกายคนไข้ และปรับเปลี่ยนการรักษาไปเรื่อยๆ ด้วยน่ะค่ะ (คนไข้คงไม่ทราบมาก่อน เลยแปลกใจ Smiley ) ยิ่งกรณีของคนไข้ เป็นแบบยากด้วยสิ ก็เลยลำบากหน่อยนะคะ
 
เรื่องเหงือกร่น ก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะมันมีการขยับ ก็เลยเกิดเหงือกเหลือ บางครั้งเหงือกก็เลยร่นตรงซอกฟันได้  อันนี้ไม่แปลก ไม่ต้องตกใจ เกิดขึ้นได้ (คนไข้คงไม่ทราบมาก่อน เลยแปลกใจ Smiley ) จริงๆ แล้วเหงือกร่นมีหลายสาเหตุด้วยล่ะค่ะ
 
หากมีเรื่องสงสัยอย่างอื่น ก็ลองถามได้นะคะ หมอพยายามจับประเด็นมาเขียนตอบเท่าที่สามารถค่ะ  Smiley
« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: 02/16/11 เวลา 10:42:03 by หมอหนิง »
ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 9097  
   
183.89.112.*


« ความเห็นที่ #11 เมื่อ: 02/16/11 เวลา 10:55:43 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

 แล้วการใส่รีเทนเนอร์ชนิดมีลวดดันฟันจะสามารถแก้ไขฟันห่างได้รึป่าวคะ  
แล้วดิฉันต้องรอกว่าหมอจะนัดตั้งวันที่ 28 ก.พ.แน่ะค่ะ  จะทำอะไรทันมั๊ย คือว่าจะสายไปรึป่าวคะ ถ้ากว่าจะรอหมอ รอทำรีเทนเนอร์
  ขอบคุณมากค่ะ ที่ทำให้ความรู้สึกเย็นลงได้บ้าง เพราะยิ่งคิดก็ยิ่งเครียดค่ะ  
แต่หมอไม่บอกอะไรจริงๆนะคะ ตอนแรกที่ไปหา ไม่บอกว่า กระดูกขากรรไกรควรจะผ่า อยากผ่ารึป่าว เพราะจัดฟันอย่างเดียวอาจไม่สมบูรณ์ ประมาณนี้ เป็นต้นค่ะ  
  หมอมีข้อแนะนำรึป่าวคะ ว่าระหว่างที่หมอไม่เข้าคลีนิกแล้วเราจะทำยังไงได้บ้าง
นอกจากรอค่ะ  กลัวฟันห่างออกไปมากกว่านี้จริงๆ
ขอบพระคุณค่ะ...
ส่งโดย: suda247
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 7  
   
61.201.197.*


« ความเห็นที่ #12 เมื่อ: 02/16/11 เวลา 10:59:24 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

- โดยทั่วไปหมอสามารถปรับลวดบางตัวเพื่อให้ทำหน้าที่ดันฟันเข้าที่ได้
- ฟันไม่ได้เคลื่อนที่เร็วขนาดนั้น คิดว่ารอได้ค่ะ  Smiley
ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 9097  
   
183.89.112.*


« ความเห็นที่ #13 เมื่อ: 02/16/11 เวลา 11:17:44 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ขอบคุณมากนะคะ  
แต่ว่าดิฉันเพิ่งเอาเครื่องมือจัดฟันออกวันที่ 27 ธ.ค.2553 และใส่รีเทนเนอร์ต่อทันที  ประมาณสัปดาห์ที่1-2 ก็รู้สึกว่ารีเทนเนอร์เริ่มคับแล้วค่ะ  
พอ 31 ม.ค. 2554  ไปหาคุณหมอตามนัด  อย่างที่เล่ามา เค้าก็ตกใจ บอกว่ามันห่างมากเลย ต้องใส่เหล็กใหม่ หรือใส่รีเทนเนอร์แบบมีลวดดันฟันค่ะ แต่ก็ไม่ได้ปรับรีเทนเนอร์ให้ บอกว่าใส่ไปดูก่อน แล้วปลายเดือนนี้มาให้หมอดูใหม่  เพราะเค้าไม่รู้ว่ามีส่วนไหนขยับไปบ้าง เพราะมองไม่ออก นอกจากซอกที่บริเวณฟันกรามที่เคยใส่ห่วงเหล็ก  (จนตอนนี้ตัวดิฉันเองก็ไม่เห็นว่าฟันอื่นจะขยับค่ะ) ทำไมมันขยับแต่ตรงนี้...
คือดูเหมือนฟันมันขยับเร็วจังเลยค่ะ เพราะตอนนี้มันมีฟันกราม2ซี่หลังสุดอยู่ชิดกัน ถัดมาเป็นฟันกรามตำแหน่งที่ใส่ห่วงเหล็ก ที่อยู่เดี่ยวๆ และไกลจากฟันด้านข้าง ประมาณ3มิล ได้แล้ว ทั้งด้านซ้ายบนและขวาบน  กลัวจริงๆว่าจะทำอะไรไม่ได้แล้ว นอกจากจัดใหม่ บอกตรงๆค่ะ ไม่อยากจัดอีกแล้ว ขอแค่ใส่รีเทนเนอร์ แล้วก็เอาออกได้ ใส่เฉพาะตอนนอนเหมือนคนอื่นๆเค้าค่ะ จะมีโอกาสมั๊ยคะ
ส่งโดย: suda247
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 7  
   
61.201.197.*


« ความเห็นที่ #14 เมื่อ: 02/16/11 เวลา 11:20:40 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

- ไม่สามารถบอกได้ว่าฟันซี่ไหนจะขยับค่ะ ฟันซี่นั้นอาจถูกบังคับให้เคลื่อนที่ จึงมีแนวโน้มที่จะขยับก่อน
- ไม่สามารถบอกได้ว่า แนวทางการแก้ไขของคนไข้จะเป็นอย่างไร ต้องการข้อมูลมากกว่านี้ในการวินิจฉัย การจัดฟันก็เป็นวิธีการหนึ่ง ถ้าจำเป็นก็สมควรทำ
ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 9097  
   
183.89.112.*


« ความเห็นที่ #15 เมื่อ: 02/16/11 เวลา 11:35:38 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ขอบคุณค่ะ
ส่งโดย: suda247
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 7  
   
61.201.197.*


Page(s) : 1 


แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print



Reply this Topic reserved for registed member only. Register



  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by