แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print

 หัวข้อ 867: เปลี่ยนหมอจัดฟัน  (จำนวนคนอ่าน 11550 ครั้ง)
« เมื่อ: 08/14/10 เวลา 17:38:26 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

หมอคะ  .. ปกติ ถ้าจัดฟันกับหมอคนนึง เเล้วมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนหมอ
 
กรณีไหนบ้างคะ ที่ต้องรื้อเครื่องมือเดิมออก เเล้วติดเครื่องมือใหม่
 
เป็นไปได้รึเปล่าคะที่จะไม่ได้รื้อ  ใช้ของเดิมต่อเลย ( เห็นหลายคนต้องรื้อ )  Grin  
 
 
ปล  ทำไมต้องรื้อด้วยเหรอคะ เครื่องมือก็น่าจะใกล้เคียงกัน
 
เเบบว่าค่าติดเครื่องมือมันเเพง เหอะๆ  Lips Sealed
 
 
ขอยกตัวอย่างนิดนึงค่ะ สงสัยจริงๆ
 
ที่คลินิก xx  มีคนไข้จะย้ายไปที่ จังหวัดอื่น ขอย้าย หมอบอกว่า
 
ไม่ให้ย้าย จะ 3 เดือน 6 เดือน มาเปลี่ยนทีก็ได้ เเต่ไม่ให้ย้าย
 
ทำไมเป็นเเบบนี้เหรอคะ  ถ้านานขนาดนั้น ผลการรักษาจะต่อเนื่องเหรอ
 
บางคลินิก ไม่ไปเปลี่ยนเดือนเดียว หมอโทรมาด่าเลย ถ้าไม่ใส่รีเทิร์นเนอร์
 
เเล้วฟันล้ม เเกจะไล่ตะเพิด เเกไม่รับจัดซ้ำให้
 
อีกนิดนึงค่ะ ถ้าจะย้ายจริงๆ เราต้องหอบสมบัติติดตัวตั้งเเต่จัดตอนเเรกไปด้วย
 
รึเปล่าคะ  ( พวกฟิล์มเอ็กซเรย์เอย  ที่พิมพ์ปากเอย )  หรือว่าต้องไปทำใหม่
« แก้ไขครั้งสุดท้ายเมื่อ: 08/14/10 เวลา 17:47:25 by what ever will be ... will be »
ส่งโดย: what ever will be ... will be female
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 50  
   
118.172.15.*


« ความเห็นที่ #1 เมื่อ: 08/14/10 เวลา 20:17:18 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

การต้องรื้อเครื่องมือใหม่ เมื่อมีการเปลี่ยนหมอ อยู่ที่ดุลยพินิจของคุณหมอท่านใหม่ สาเหตุก็มีหลายอย่าง เช่น กระบวนการรักษา และเทคนิคต่างกัน / เครื่องมือจัดฟันที่ใช้มีหลายระบบ ไม่เหมือนกัน คุณหมอท่านเก่า ท่านใหม่ อาจศึกษามาเทคนิคต่างกัน เครื่องมือ คีมดัดลวด อะไรๆ อาจจะต่างกัน ไม่สามารถต่อกันได้
 
การรักษาโรคไม่ใช่แบบว่า 1 2 3 4 .... ถึง 10 ขั้นตอนไหนหายไป ก็ต่อได้ทันที ไม่ใช่อย่างนั้น แต่การรักษาโรคต้องประยุกต์ไปตามคนไข้แต่ละคน  
 
เนื่องจากคุณหมอท่านใหม่ไม่สามารถทราบได้เลยว่า คุณหมอท่านเก่ารักษาอะไรไว้บ้าง มีแผนการรักษาอย่างไร มีปัญหาอะไร ที่ต้องดูแลเป็นพิเศษหรือเปล่า อีกทั้งการรับงานต่อจากคนอื่นมันย่อมยากกว่าการเริ่มทำเองแต่ต้น  
 
นอกจากนี้ การเปลี่ยนคุณหมอ ก็ยังป้องกัน การฟ้องร้อง ข้อพิพาท ความไม่พึงพอใจผลในการรักษา การทำความเข้าใจต่อคนไข้ คุณหมอท่านเก่า อาจบอกไว้แบบหนึ่ง คุณหมอท่านใหม่ อาจคิดอีกแบบหนึ่ง อะไรทำนองนี้ แนวทางการรักษาอาจแตกต่างกันได้ทางเทคนิค และระบบเครื่องมือ ดังที่กล่าวไว้บ้างในย่อหน้าก่อน ถ้าความคิดเห็นตรงกัน ก็โอเค ดีไป แต่ถ้าไม่ตรงกัน จะทำอย่างไร เช่น จัดฟันกับคนเก่า บอกว่า ไม่ต้องผ่าตัด จัดฟันกับคนใหม่ บอกว่าต้องผ่าตัดร่วมด้วย อะไรทำนองนี้ ซึ่งแผนการรักษาจะต่างกัน ไม่สามารถต่อติดกันได้เลย
 
เรื่องสมมติ หมอไม่ขอตอบ คงต้องถามคุณหมอแต่ละท่านเอง คงเป็นวิจารณญาณของท่าน
 
เรื่องรีเทนเนอร์ นั้นมีความสำคัญ เพราะถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการรักษา(จัดฟัน) ถ้าไม่ใส่รีเทนเนอร์ ที่อุตส่าห์จัดฟันมา อาจล้มเหลว เพราะรีเทนเนอร์ช่วยคงสภาพการสบฟันใหม่ ไม่ให้ฟันเคลื่อนที่กลับสู่ตำแหน่งเริ่มต้น ฟันล้ม คล้ายๆ ฟันยังไม่ชินกับตำแหน่งใหม่ ต้องมีเครื่องมือมันบังคับฟันอีกระยะ ถ้าไม่ทำรีเทนเนอร์กับคุณหมอท่านเก่า คุณหมอท่านใหม่ก็ไม่มีทางทราบแนวทางการรักษาเดิมอีกเช่นกัน หากใส่รีเทนเนอร์ไปแบบเกิดผลเสียขึ้น เขาก็ไม่ทราบว่าควรจะทำอย่างไรดี
 
ฉะนั้นการตัดสินใจจัดฟัน ควรมั่นใจว่า คนไข้จะพักอาศัยที่ใดที่หนึ่งได้ตลอด 2-3 ปีของการรักษา การย้ายบ้านบ่อยๆ จะทำให้การรักษายุ่งยากมาก การย้ายที่จัดฟันไม่ใช่ทำกันได้ง่ายๆ ถ้าสมมติต้องมีการย้ายที่อยู่จริงๆ ก็ควรต้องนำเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวกับการรักษาทั้งหมด เช่น ฟิล์ม ที่พิมพ์ปาก (แต่บางทีมันมักจะหายไปหรือถูกทิ้งไป) แนวทางการรักษาที่คุณหมอคนไข้บันทึกไว้ หรือให้คุณหมอคนเก่าเขียนเป็นจดหมายไว้ให้ เพื่อคุณหมอคนใหม่จะได้เข้าใจ จากนั้นคนไข้ก็ต้องไปคุยกับคุณหมอคนใหม่ ให้ทราบ อธิบายให้คุณหมอคนใหม่เขายอมรักษาให้ แต่มันเป็นเรื่องกระอักกระอ่วนใจมาก ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น สิ่งที่จะเป็นไปได้ก็คือ อาจต้องรักษาใหม่เลย หรือรักษาต่อได้ ซึ่งอันนี้ต้องพิจารณาเป็นรายๆ ไปค่ะ
ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 9097  
   
58.9.196.*


Page(s) : 1 


แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print



Reply this Topic reserved for registed member only. Register



  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by