« ความเห็นที่ #1 เมื่อ: 07/31/10 เวลา 16:45:50 » |
|
ต้องแยกเป็น 2 เรื่อง คือ 1. อ้าปาก หุบปาก แล้วมีเสียงดังที่หน้าหู แบบนี้ อาจเป็นโรคของข้อต่อขากรรไกร เกิดจากเอ็นที่รองข้อต่อขากรรไกรหย่อน แล้วไปขวางการเคลื่อนที่ของข้อต่อขากรรไกร ข้อต่อขากรรไกรเลยเสียดสีกับกระดูกข้างใต้ เกิดเสียงดังก๊อกๆ ส่วนสาเหตุของเอ็นหย่อน มีหลายอย่าง เช่น การใช้งานหนัก การนอนกัดฟัน การใช้งานผิดประเภท เช่น จากการเคี้ยวอาหารข้างเดียวเป็นเวลานานๆ การคุยโทรศัพท์หนีบหูกับไหล่ การสีไวโอเลิน การหาวกว้าง การอ้าปากกว้าง ฯลฯ อะไรก็ตามที่มีการใช้ขากรรไกรมากเกิน อุบัติเหตุเกี่ยวกับขากรรไกร และสาเหตุที่สำคัญ คือ ความเครียด ฉะนั้น โรคนี้จึงมักพบในวัยรุ่น วัยทำงาน การอ้าปากกว้างขณะนอนผ่าฟันคุดอาจกระตุ้นอาการได้ นอกจากนี้การจัดฟันก็อาจกระตุ้นอาการดังกล่าวได้เช่นกัน รักษาด้วยการใส่เครื่องมือที่เรียกว่า เฝือกสบฟัน หรือ occlusal splint ซึ่งเป็นเครื่องมือคล้ายๆ กับฟันยางนักมวย แต่แข็งกว่า เครื่องมือนี้จะช่วยหย่อนขากรรไกร เมื่อขากรรไกรหย่อนก็ทำให้ขากรรไกรได้พัก ต้องรักษานานนะคะ กว่าจะดีขึ้น แต่บางคนที่หายเร็วค่ะ นอกจากนี้ก็ต้องมีการปรับพฤติกรรมในการใช้ชิวิตใหม่ ด้วยนะคะ ลองไปหาหมอที่คณะทันตแพทย์ จุฬา แถวสยามสแควร์ หรือ มหิดล แถวอนุสาวรีย์ นะคะ คุณหมอที่เชี่ยวชาญด้านนี้ เรียกว่าคุณหมอทันตกรรมบดเคี้ยว หรือ occlusion ค่ะ 2. ปัญหากรามเบี้ยวเนื่องจากอุบัติเหตุ เมื่อปัญหาอยู่ที่กราม ก็ต้องแก้ไขที่กราม วิธีการแก้ไขก็คือ การผ่าตัดตกแต่ง ปัญหากรามเบี้ยวไม่สามารถรักษาได้ด้วยการจัดฟันเพียงอย่างเดียว ถามว่าทำดี หรือไม่ดี อันนี้ก็ต้องดูความต้องการของคนไข้ การรักษาประเภทนี้ ยากด้วยตัวของมันเองอยู่แล้ว ต้องวางยาสลบผ่าตัด นอนรพ. หลายวัน ต้องพักฟื้น นอกจากนี้คนไข้ก็ต้องเตรียมตัวก่อนการผ่าตัด 1-2 ปี และเมื่อผ่าตัดเสร็จแล้วก็ต้องจัดฟันคงสภาพของขากรรไกรต่ออีก 1-2 ปี เรื่องราคา เฉพาะค่าผ่าตัดประมาณ 150,000 บาท เรื่องความปลอดภัย ขึ้นชื่อว่าการผ่าตัด อะไรๆ ก็ไม่แน่นอน เป็นอะไรที่ใหญ่โต แต่โดยทั่วไป คุณหมอที่รักษาก็ต้องพยายามควบคุมลดความเสี่ยงต่างๆ ของคนไข้ให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก็ต้องดูสภาพคนไข้ด้วยว่าแข็งแรงดีไหม มีโรคประจำตัวหรือเปล่า มีความคาดหวังต่อการรักษาอย่างไร เพราะการรักษาประเภทนี้ก็กึ่งๆ การผ่าตัดตกแต่ง ฉะนั้น ต้องเผื่อใจว่าอาจไม่ได้ผลการรักษาตามที่เราต้องการเป๊ะๆ ต้องให้คุณหมอเขาวางแผนก่อนว่าทำได้ดีที่สุดประมาณไหน และคนไข้พอใจจะรักษาหรือไม่ มันต้องตรวจอะไรอีกเยอะแยะ น่ะค่ะ
|
|