แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print

 หัวข้อ 780: เขี้ยวกับการจัดฟัน  (จำนวนคนอ่าน 8589 ครั้ง)
« เมื่อ: 06/24/10 เวลา 18:52:53 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

มีเรื่องถามหมอหนิงค่ะ....คือว่ามีเขี้ยว 2 ข้างขึ้นซ้อนฟันด้านหน้าและอยู่สูงมาก สามารถจัดฟันโดยไม่ต้องถอนเขี้ยวได้ไหมค่ะ เพราะดูแล้วมันติดกับเหงือกแน่นมาก ๆ เลยค่ะถ้าถอนคงสยองน่าดู และถ้าหากว่าฟันกรามด้านล่างเหลืออยู่ข้างละ 2 ซี่ (หลุดไปแล้วข้างละ 2 ซี่) สามารถจัดฟันแทนการใส่ฟันปลอมได้ไหมค่ะ คือตอนนี้มีปัญหาฟันไม่สวยอย่างยิ่งเลยค่ะ เรื่องของเรื่องไม่กล้าพบหมอฟันเนื่องจากกลัวเสียงเครื่องมือกรอฟันมาก ๆ ค่ะ (เครียดมาก) เลยทำให้มีปัญหาเรื่องช่องปาก แต่ตอนนี้จะพยายามอดทนแล้วค่ะ เพราะรู้สึกว่าช่องปากเริ่มแย่แล้วและก็มีฟันผุด้วย รบกวนคุณหมอช่วยตอบด้วยนะค่ะและก็ประมาณค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ ในการเคลียร์ช่องปาก (หินปูนเยอะ ฟันผุ)  และการจัดฟันด้วยค่ะ ถ้าอุดด้วยวัสดุสีเหมือนฟันราคาต่อซี่เท่าไหร่4 ด้านที่สำคัญอีกข้อค่ะตอนนี้อายุ 38 ปีแล้วพอไหวไหมค่ะสำหรับการจัดฟัน
 
ขอบคุณหมอหนิงล่วงหน้านะค่ะถามซะเยอะเลย
ส่งโดย: nuii_name
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 1  
   
183.89.149.*


« ความเห็นที่ #1 เมื่อ: 06/24/10 เวลา 20:05:50 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

- ปกติ ถ้าตำแหน่งของฟันเขี้ยวไม่อยู่นอกแนวมากๆ หมอก็จะพยายามดึงลงมาให้เข้าที่โดยต้องสร้างพื้นที่ให้ฟันเขี้ยวอยู่โดยการถ อนฟันกรามน้อย(ข้างหลังฟันเขี้ยว) ออกไปหนึ่งซี่
- เรื่องฟันกรามล่างที่หลอ คงไม่สามารถใช้การจัดฟันช่วยได้ ต้องใส่ฟันปลอมแทน
- เรื่องปัญหาสุขภาพช่องปาก ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ล้วนเริ่มต้นจากก้าวแรกทั้งนั้น ฉะนั้น ถ้าไม่เริ่มต้นก็คงไม่สำเร็จ ทำใจให้กล้า แล้วไปหาคุณหมอเพื่อตรวจสุขภาพช่องปากดูว่า มีปัญหาอะไรบ้าง ต้องจัดการอะไรบ้าง
- เรื่องค่ารักษา ค่าอุดฟันประมาณ 400 บาท/ด้าน (ผุหลายด้านก็แพงขึ้น) ค่าขูดหินปูนประมาณ 500 บาท แล้วแต่ปริมาณหินปูน ค่าถอนฟันประมาณ 3-400 บาท แล้วแต่ความยากง่ายอีกเช่นกัน
- ค่าจัดฟันประมาณ 45000 แต่กรณีของคุณ หากยากมากก็อาจแพงขึ้น
- เรื่องอายุกับการจัดฟันนั้น ปัจจุบัน อายุไม่ใช่ปัญหาสำคัญ แต่ปัญหาที่จะทำให้จัดฟันได้หรือไม่ได้ คือการสบฟันและความผิดปกติที่มี ขนาดขากรรไกร ประมาณนี้
- ส่วนกรณีของคุณเอง ประเด็นแรกที่ต้องพิจารณาคือ จะจัดได้หรือไม่ ซึ่งก็ต้องไปหาคุณหมอเพื่อตรวจดู จึงจะทราบ ประเด็นที่ 2 ที่ต้องพิจารณาคือ ถ้าจัดฟันได้ แล้วสมควรจัดฟันหรือไม่ ซึ่งก็ต้องอยู่ที่ใจของคนไข้ว่าเห็นเป็นเช่นไร การจัดฟัน มีความทรมานควบคู่มาด้วย ทั้งเครื่องมือที่ต้องเกาะติดอยู่ในปาก จะทำให้เราเคี้ยวอาหารไม่สะดวก พูดจาก็ไม่สะดวก เครื่องมือเกี่ยวปากเป็นแผลบ่อย อาหารที่เราเคยชอบ อาจรับประทานไม่ได้ เช่นพวกฝรั่ง แอปเปิ้ล หรือผลไม้และขนมอะไรที่มันแข็งๆ คนไข้ต้องอาศัยการปรับตัวมาก พอสมควรสำหรับระยะเวลาประมาณ 3 ปี ของการรักษา ถ้าคิดว่า ชั้นสู้ได้ ก็ลุยเลยค่ะ Smiley
ส่งโดย: หมอหนิง
สถานะ: Executive Member *****
จำนวนความเห็น: 9097  
   
115.87.130.*


« ความเห็นที่ #2 เมื่อ: 06/26/10 เวลา 19:22:02 » ตอบกลับพร้อมข้อความ แก้ไขข้อความ

ขอบคุณหมอหนิงมาก ๆ นะค่ะจะลุยแล้วค่ะเพื่อสุขภาพช่องปากที่ดีในอนาคต
ส่งโดย: sabuy
สถานะ: Newbie *
จำนวนความเห็น: 6  
   
183.89.214.*


Page(s) : 1 


แจ้งลบกระทู้ แจ้งเมื่อมีคนตอบกระทู้นี้ แนะนำกระทู้นี้ Print



Reply this Topic reserved for registed member only. Register



  • ข้อความและรูปภาพที่ท่านเห็นส่วนใหญ่ ได้ถูกส่งมาจาก ทางบ้าน
    ทางเว็บไซต์ Thaiclinic.com ไม่ได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ของข้อความและรูปภาพที่ถูกส่งมา

  • ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชนและส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ
    เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้นเพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง
    ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง

  • ถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรมหรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล
    หรือหน่วยงานใด กรุณาส่ง email มาที่ webmaster@thaiclinic.com หรือ กดแจ้งที่ปุ่ม
    "แจ้งลบกระทู้"
    เพื่อให้ทีมงานทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันทำให้สังคมน่าอยู่ครับ

ThaiClinic.Com . All Rights Reserved. !--BEGIN WEB STAT CODE-->

Powered by