มะเร็งตับ
-
1.
มะเร็งตับ พบมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบได้น้อยในภาคใต้
-
2.
พบมากในเพศชาย เป็นอันดับ 1 และเป็นอันดับ 4
ในเพศหญิง อัตราเฉลี่ยชาย : หญิง 3:1
-
3.
มักจะเกิดในระหว่างอายุ 35 - 65 ปี
-
4.
เป็นมะเร็งที่มีการดำเนินชีวิตใน 3 - 6 เดือน
-
สาเหตุ
-
1.
การเกิดของโรค แยกตามประเภทได้ 2 ชนิด คือ
-
1.1
ชนิดที่เกิดกับตับโดยตรง (มะเร็งปฐมภูมิ)
-
ในประเทศไทยพบมากมี
2 ชนิดคือ
-
1.1.1
มะเร็งชนิดเซลล์ตับ
-
1.1.2
มะเร็งชนิดเซลล์ท่อน้ำดี
-
1.2
ชนิดที่ลุกลามมาจากมะเร็งของอวัยวะอื่น (มะเร็งทุติยภูมิ)
-
2.
พบว่ามีปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการเกิดโรค
เช่น โรคไวรัสตับอักเสบชนิดบี พยาธิใบไม้ในตับ
สาร เคมี
-
ต่าง
ๆ ยารักษาโรคบางชนิด ยาฆ่าแมลง สารพิษที่เกิดจากเชื้อรา
สารเคมีที่เกิดจากอาหารหมัก ดอง สุรา ฯลฯ ภาวหะทุพโภชนาการ ภาวะทางระบบอินมูนคุณสมบัติทางพันธุกรรม
และปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม เป็นสาเหตุช่วยในการเกิดโรค
-
อาการ
-
1.
เริ่มต้นด้วยอาการเบื่ออาหาร แน่นท้อง ท้องผูก
-
2.
อ่อนเพลีย น้ำหนักลด และมีไข้ต่ำ ๆ
-
3.
ปวดหรือเสียดชายโครงด้านขวา อาจคลำก้อนได้
-
4.
ตัวเหลือง ตาเหลือง ท้องโตและบวมบริเวณขาทั้ง 2 ข้าง
-
การวินิจฉัย
-
การตรวจและการรักษาโรคมะเร็งตับตั้งแต่ระยะเริ่มแรกจะได้ผลดี
-
1.
การวินิจฉัย ได้แก่
-
1.1
การตรวจหาระดับแอลฟ่าฟีโตโปรตีน(alpha-feto protein)ในน้ำเหลือง(Serum)
-
1.2
การใช้เครื่องมือพิเศษ ได้แก่ เครื่องตรวจความถี่สูง(Ultrasound) และเครื่องแสดงภายอวัยวะด้วยรังสี
ไอโซโทป และ เครื่องเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์
-
1.3
การดูลักษณะของเซลล์ด้วยการเจาะเอาเนื้อตับมาตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์
-
การรักษา
-
1.
โดยการผ่าตัด เป็นวิธีเดียวที่มีโอกาสหายขาดได้ในกรณีที่ก้อนมะเร็งมีขนาดเล็กและยังอยู่ในของเขตที่จะทำ
-
การผ่าตัดได้
-
2.
การใช้ยาเคมีส่วนใหญ่รักษาเพื่อบรรเทา
-
3.
การฉีดยาเคมี หรือสารอุดตัน เข้าเส้นเลือดแดงที่หล่อเลื้ยงก้อนมะเร็ง
-
4.
การฉายแสงเพื่อบรรเทา
-
5.
การผสมผสมนวิธีการดังกล่าว
6.
การฉีดยาเข้าก้อนมะเร็งโดยตรงในมะเร็งระยะแรกเริ่ม
This
Web Page Design & Created by Dr.OU
28
June 1998
Copyright
(c) 1998. ThaiClinic.com. All rights
reserved.